แชมป์ตูร์ เดอร์ ฟรองซ์ 2011 ที่ประเทศฝรั่งเศส

คาเดล อีแวนส์ สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักปั่นชาวออสเตรเลียคนแรกที่คว้าแชมป์ตูร์ เดอร์ ฟรองซ์ 2011

ศึกจักรยานทางไกลที่เก่าแก่ที่สุดรายการ ตูร์ เดอ ฟรองซ์ ประจำปี 2011 ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่ออาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นการชิงชัยสเตจที่ 21 สเตจสุดท้าย เส้นทางจาก เครแตย์ ไปเข้าเส้นชัยที่ถนนชองป์ส เอลิเซส์ กรุงปารีส ระยะทาง 95 กิโลเมตร
ปรากฎว่า มาร์ค คาเวนดิช ทีมเอชทีซี-ไฮจ์โรด สปินท์ช่วงท้าย ชนะ เอ็ดวาลด์ โบอัสสัน ฮาเกน ทีมสกาย และ อังเดร ไกรเปิล ทีมโอเมกา ฟาร์มา-ล็อตโต เข้าป้ายคันแรก กลายเป็นชัยชนะปีที่ 3 ติดต่อกันบนถนนชองป์ส เอลิเซส์ อีกทั้งเป็นการชนะสเตจที่ 5 ของเจ้าตัวในปีนี้และรวมเป็น 20 สเตจตลอดอาชีพ
เนื่องจาก โฆเซ โรฆาส ทีมโมวิสตาร์ คู่แข่งในการแย่งเสื้อเขียวไม่ได้เข้าเส้นชัยด้วยเวลาที่ดีกว่า มาร์ค คาเวนดิช รักษาเสื้อเขียวไว้ได้กลายเป็นเจ้าแห่งการสปินท์และเป็นนักปั่นชาวอังกฤษคนแรกที่ได้ยืนบนโพเดียมนับแต่ปี 1984
ด้าน คาเดล อีแวนส์ เจ้าของเสื้อเหลือง ทีมบีเอ็มซี เข้าเส้นชัยพร้อมนักปั่นกลุ่มใหญ่ทำเวลารวม 86 ชั่วโมง 12 นาที 22 วินาที รักษาระยะห่าง 1 นาที 34 วินาทีจาก แอนดี ชเล็ค ทีมลีโอพาร์ด-เทร็ก เท่ากับเมื่อวานนี้ คว้าแชมป์ตูร์ เดอ ฟรองซ์ สมัยแรกได้สำเร็จ หลังจากเคยเป็นรองแชมป์ปี 2007 และ 2008
ซามูเอล ซานเชซ ทีมยูสคัลเทล ได้เสื้อขาวลายจุดสีแดงเป็นเจ้าภูเขาประจำปีนี้ ขณะที่ ปิแอร์ โรลลองด์ ทีมยุโรปคาร์ ครอบครองเสื้อขาวในฐานะผู้เล่นอายุต่ำกว่า 25 ปีที่น่าจับตามอง
ส่วน อัลแบร์โต คอนทาดอร์ แชมป์เก่าชาวสเปน ทีมแซ็กโซ-แบงก์ จบอันดับ 5 ในตารางเวลารวม มีเวลาตามหลัง คาเดล อีแวนส์ 3 นาที 57 วินาที

ผลการเเข่งขันปั่นจักรยานในปัจจุบันเเต่ยังไม่เป็นที่เเน่นอน

ธอร์ ฮูชอฟด์ นักปั่นชาวนอร์เวย์ คว้าแชมป์สเตจที่ 16 ศึกตูร์ เดอ ฟรองซ์ 2011 ส่วนเสื้อเหลืองยังคงเป็นของ โธมัส โวคแลร์ นักปั่นชาวฝรั่งเศส

การแข่งขันจักรยานทางไกลที่เก่าแก่ที่สุด รายการ ตูร์ เดอ ฟรองซ์ ประจำปี 2011 ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันอังคารที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นการชิงชัยในสเตจที่ 16 เส้นทางจาก แซงต์ ปอล ทรัวส์ ชาโตซ์ ถึง กาป ระยะทาง 162.5 กิโลเมตร
ปรากฏว่า ธอร์ ฮูชอฟด์ นักปั่นชาวนอร์เวย์ ได้ ไรเดอร์ เฮสเยดาล เพื่อนร่วมทีมการ์มิน-เซอร์เวโลชาวแคนาดา ช่วยเบียด เอ็ดวัลด์ โบอาสซัน ฮาเกน นักปั่นชาวนอร์เวย์ ทีมสกาย โปรไซคลิง ให้ในช่วง 2 กิโลเมตรสุดท้าย ก่อนเฉือนเข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 3 ชั่วโมง 31 นาที 38 วินาที
ด้าน โธมัส โวคแลร์ นักปั่นชาวฝรั่งเศส ทีมยุโรปคาร์ ยังได้สวมเสื้อเหลืองของผู้นำเวลารวมต่อไปเป็นสเตจที่ 8 ติดต่อกัน โดยทำเวลา 69 ชั่วโมง 56 วินาที แต่ถูก คาเดล อีแวนส์ นักปั่นชาวออสเตรเลีย ทีมบีเอ็มซี เรซซิง แซงหน้า แฟรงค์ ชเล็ค ขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ทำเวลารวมตามหลังเพียง 1 นาที 45 วินาที

ส่วน อัลเบร์โต กอนทาดอร์ แชมป์ 3 สมัยชาวสเปน ทีมแซกโซ แบงค์ ซันการ์ด ยังคงเดินหน้าป้องกันบัลลังก์แชมป์ของตัวเองต่อไป แม้จะมีอาการบาดเจ็บเข่ารบกวนก็ตาม โดยทำเวลารวมเป็นอันดับ 6 ที่ 69 ชั่วโมง 4 นาที 38 วินาที ตามหลัง โวคแลร์ 3 นาที 42 วินาที
ขณะที่ มาร์ค คาเวนดิช นักชาวอังกฤษ ทีมเอชทีซี ไฮโรด ยึดครองเสื้อเขียวในประเภทเจ้าความเร็วเอาไว้ได้ โดยเก็บแต้มไปแล้ว 319 คะแนน นำหน้า โฆเซ ฆัวกิน โรฆาส นักปั่นชาวสเปน โมวิสตาร์ทีม อยู่ 34 คะแนน
สำหรับในวันนี้จะเข้าสู่การแข่งขันบนภูเขาอีกครั้ง โดยสเตจที่ 17 เป็นเส้นทางจาก กาป ถึง ปีเนโรโล ระยะทาง 179 กิโลเมตร









เอ็ดวัลด์ โบอาสซัน ฮาเกน นักปั่นชาวนอร์เวย์ คว้าแชมป์สเตจที่ 17 ศึกจักรยานทางไกล ตูร์ เดอ ฟรองซ์ 2011 ส่วน โธมัส โวคแลร์ นักปั่นชาวฝรั่งเศส ยังคงเป็นผู้นำเวลารวม

การแข่งขันจักรยานทางไกลที่เก่าแก่ที่สุด รายการ ตูร์ เดอ ฟรองซ์ ประจำปี 2011 ที่ประเทศฝรั่งเศส เข้าสู่การชิงชัยบนเทือกเขาแอลป์ส โดยสเตจที่ 17 เป็นเส้นทางจาก กาป ถึง ปิเนโรโล เมืองชนบทของอิตาลี ระยะทาง 179 กิโลเมตร
ปรากฏว่า เอ็ดวัลด์ โบอาสซัน ฮาเกน นักปั่นชาวนอร์เวย์ ทีมสกาย โปรไซคลิง เข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 4 ชั่วโมง 18 นาที คว้าแชมป์สเตจเป็นหนที่ 2 ในปีนี้ ทิ้งห่าง เบาเก โมลเลมา นักปั่นชาวฮอลแลนด์ ทีมราโบแบงค์ 40 วินาที ส่วน ซองดี กาซาร์ นักปั่นชาวฝรั่งเศส ทีมเอฟดีเจ เข้ามาเป็นที่ 3 ตามหลัง เอ็ดวัลด์ โบอาสซัน ฮาเกน 50 วินาที
ขณะที่ โธมัส โวคแลร์ ผู้นำเวลารวมชาวฝรั่งเศส ทีมยุโรปคาร์ ยังคงครองเสื้อเหลืองไว้ได้เป็นสเตจที่ 9 ติดต่อกัน แม้ว่าจะเกือบเสียหลักถึง 2 ครั้งระหว่างทางลาดลงเขาช่วงสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัยก็ตาม ทำให้ยังตำแหน่งไว้ได้ด้วยเวลารวม 73 ชั่วโมง 23 นาที 49 วินาที แต่ถูก คาเดล อีแวนส์ นักปั่นชาวออสเตรเลีย ทีมบีเอ็มซี เรซซิง ไล่จี้เข้ามาจนตามหลังเพียง 1 นาที 18 วินาที

ส่วน อัลเบร์โต กอนทาดอร์ แชมป์ 3 สมัยชาวสเปน ทีมแซกโซ แบงค์ ซันการ์ด เพิ่มโอกาสลุ้นป้องกันแชมป์ของตัวเองด้วยการทำเวลาตามหลัง โธมัส โวคแลร์ เหลือเพียง 3 นาที 15 วินาที รั้งอันดับ 6 ของตารางเวลารวม
สำหรับสเตจที่ 18 ซึ่งยังคงเป็นเส้นทางบนเทือกเขาแอลป์สจะทำการแข่งขันกันต่อในวันนี้ เส้นทางจาก ปิเนโรโล ถึง กาลิบิเยร์ แซร์-เชอวาลิเยร์ ระยะทาง 200.5 กิโลเมตร









แอนดี ชเล็ค รองแชมป์เก่า 2 สมัยซ้อน คว้าแชมป์สเตจที่ 18 ศึกจักรยานทางไกล ตูร์ เดอ ฟรองซ์ 2011 พร้อมทำเวลารวมไล่จี้ โธมัส โวคแลร์ ผู้นำเวลารวม เหลือเพียง 15 วินาที

การแข่งขันจักรยานทางไกลที่เก่าแก่ที่สุด รายการ ตูร์ เดอ ฟรองซ์ ประจำปี 2011 ที่ประเทศฝรั่งเศส สเตจที่ 18 ยังเป็นการชิงชัยบนเทือกเขาแอลป์ส เส้นทางจากปิเนโรโล ถึง กาลิบิเยร์ แซร์-เชอวาลิเยร์ ระยะทาง 200.5 กิโลเมตร
ปรากฎว่า แอนดี ชเล็ค นักปั่นชาวลักเซมเบิร์ก ทีมลีโอพาร์ด เทร็ก เข้าเส้นชัยคันแรกด้วยเวลา 6 ชั่วโมง 07 นาที 56 วินาที ทิ้งพี่ชาย แฟรงค์ ชเล็ค ถึง 2 นาที 7 วินาที และห่างจากอันดับ 3 คาเดล อีแวนส์ นักปั่นชาวออสเตรเลีย ทีมบีเอ็มซี เรซซิง อยู่ 2 นาที 15 วินาที
ขณะที่ โธมัส โวคแลร์ ผู้นำเวลารวม ทีมยุโรปคาร์ เข้าเส้นชัยอันดับ 5 ด้วยเวลาตามหลังผู้ชนะ 2 นาที 21 วินาทีได้สวมเสื้อเหลืองต่อไปด้วยเวลารวม 79 ชั่วโมง 34 นาที 06 วินาที แต่ถูก แอนดี ชเล็ค ผู้น้องทำเวลารวมไล่จี้เหลือเพียง 15 วินาที
ส่วน "แชมป์เก่า" อัลแบร์โต คอนทาดอร์ ชาวสเปน ทีมแซ็กโซแบงค์ เข้าเส้นชัยสเตจนี้ด้วยเวลาตามหลังผู้ชนะ 3 นาที 50 วินาที และเวลารวมห่างจาก โธมัส โวคแลร์ อยู่ 4 นาที 44 วินาที โดยการแข่งขันเหลืออีกเพียง 3 สเตจ
สำหรับสเตจที่ 19 ในวันนี้เป็นระยะสุดท้ายบนเทือกเขาแอลป์ส เส้นทางจาก โมดาน วัลเฟรจูส ถึง เอลป์-เดอ ฮูซ ระยะทาง 109.5 กิโลเมตร













   "ปิแอร์ โรลังด์" ได้ใจแฟนจักรยานชาวฝรั่งเศสไปเต็มๆ เมื่อพลิกโผคว้าแชมป์สเตจ 19 ในการแข่งขันตูร์ เดอ ฟรองซ์ 2011 ด้าน "แอนดี ชเล็ค" มีลุ้นปลดล็อคแชมป์แรกของตัวเองเต็มที หลังขึ้นนำเวลารวม กระชากเสื้อเหลืองมาครองได้สำเร็จเมื่อเหลือการแข่งขันอีกเพียง 2 สเตจสุดท้ายเท่านั้น...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 22 ก.ค. ปิแอร์ โรลังด์ น่องเหล็กวัย 24 ปีชาวฝรั่งเศส สังกัดทีมยูร็อพคาร์ โชว์ฟอร์มเยี่ยม เมื่อคว้าแชมป์สเตจ 19 ในการแข่งขันจักรยานทางไกลที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ตูร์ เดอ ฟรองซ์ 2011 เส้นทางภูเขา โมดาน-แอลป์ ดูเอซ์ ระยะทาง 109.5 กิโลเมตร ด้วยการเฉือน ซามูเอล ซานเชซ และ อัลแบร์โต คอนตาดอร์ ในช่วง 2 กิโลเมตรสุดท้าย ก่อนปั่นเข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 3 ชั่วโมง 13 นาที 25 วินาที

นอกจากนี้แชมป์ดังกล่าว ยังจะส่งให้ โรลังด์ ขึ้นนำในส่วนของเวลารวมประเภทนักแข่งที่มีอายุน้อยกว่า 25 ปี ได้ใส่เสื้อขาวเป็นตัวบอกตำแหน่ง ส่วนอันดับ 2 ของสเตจนี้เป็น ซานเชซ จากทีมยูสคาสเทล เวลาตามหลังแชมป์ 14 วินาที และอันดับ 3 คอนตาดอร์ อดีตแชมป์ 3 สมัยของทีมแซ็กโซ แบงค์ ซันการ์ด ตามหลังแชมป์ 23 วินาที


ขณะที่เมื่อเหลือการชิงชัยในอีก 2 สเตจสุดท้าย ปรากฏว่า ตำแหน่งผู้นำเวลารวมเสื้อเหลืองมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อ แอนดี ชเล็ค นักปั่นชาวลักเซมเบิร์กของเลียวพาร์ด เทร็ค ดีกรีรองแชมป์ 2 สมัยซ้อน สามารถแซง โธมัส โวเอ็กเลร์ ขึ้นมานำ กระชากเสื้อเหลืองมาครองได้สำเร็จ ด้วยเวลา 82 ชั่วโมง 48 นาที 43 วินาที ส่วนอันดับ 2 คือ ชเล็คผู้พี่ แฟรงค์ จากทีมด้วยกัน เวลาตามหลังน้องชาย 53 วินาที ส่วน คอนตาดอร์ โอกาสแชมป์สมัย 4 ลุ้นลำบาก เมื่อยังตามหลังชเล็คผู้น้องอีกห่างถึง 3 นาที 55 วินาที

ขณะที่สเตจต่อไปสเตจที่ 20 จะถือเป็นไคล์แม็กซ์สำคัญ มีโอกาสตัดสินแชมป์สูง โดยจะเป็นการแข่งแบบจับเวลาประเภทบุคคล เส้นทางในเมืองเกรอน็อบ ระยะ 42.5 กิโลเมตร.

คาเดล อีแวนส์ จะกลายเป็นนักปั่นชาวออสเตรเลียนคนแรก ที่คว้าแชมป์จักรยานทางไกล ตูร์ เดอ ฟรองซ์ หลังจากจบอันดับสองในการแข่งขันแบบไทม์ ไทรอัล สเตจที่ 20 รองสุดท้ายของปี 2011 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (23 ก.ค.)
      
       ศึกจักรยานทางไกลที่เก่าแก่ที่สุด รายการ ตูร์ เดอ ฟรองซ์ ประจำปี 2011 ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อเสาร์ที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา เข้าสู่สเตจที่ 20 เป็นการแข่งขันแบบไทม์ ไทรอัล ประเภทบุคคล เส้นทางในเมืองเกรโนเบิล ระยะทาง 42.5 กิโลเมตร
      
       ปรากฎว่า คาเดล อีแวนส์ อดีตรองแชมป์ปี 2007 และ 2008 จากทีมบีเอ็มซี ทำเวลาเข้ามาเป็นอันดับสองช้าไป 7 วินาทีจากผู้ชนะของสเตจนี้คือ โทนี มาร์ติน น่องเหล็กชาวเยอรมันทีมเอชทีซี-ไฮจ์โรด ที่ทำเวลาได้ 55 นาที 33 วินาที
      
       แต่เวลาในสเตจนี้ของ อีแวนส์ ดีกว่า แอนดี ชเล็ค เจ้าของเสื้อเหลืองจากทีมลีโอพาร์ด เทร็ก ถึง 2 นาที 30 วินาที จึงกลายมาเป็นผู้นำเวลารวมแทนด้วยเวลา 84 ชั่วโมง 45 นาที 20 วินาที ขณะที่ ชเล็ค หล่นมาอยู่อับดับสองตามหลัง 1 นาที 34 วินาทีและเตรียมกลายเป็นพระรอง 3 ปีติดต่อกัน ส่วนอันดับสามเป็นพี่ชาย แฟรงค์ ชเล็ค ที่เวลารวมตามหลัง อีแวนส์ อยู่ 2 นาที 30 วินาที
      
       สำหรับสเตจสุดท้ายในวันอาทิตย์นี้ (24 ก.ค.) ซึ่งตามประเพณีจะไม่มีการแข่งขันแบบจริงจังกันแล้ว อีแวนส์ จะได้เฉลิมฉลองการคว้าแชมป์ตูร์ เดอ ฟรองซ์ สมัยแรกของตนเองไปตลอดเส้นทางจาก เครเทล ถึง ปารีส ระยะทาง 95 กิโลเมตร
      
       ขณะที่ อัลแบร์โต คอนทาดอร์ แชมป์เก่าชาวสเปนจากทีมแซ็กโซ แบงก์ ซึ่งประสบปัญหาเจ็บหัวเข่าตั้งแต่สัปดาห์แรกและเจออุบัติเหตุในสเตจที่ 18 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (21 ก.ค.) คว้าอันดับสามในสเตจรองสุดท้ายนี้และจะจบรายการด้วยอันดับ 5 ในตารางเวลารวม

                                                                                         

ผลการเเข่งขันปั่นจักรยานในปัจจุบันเเต่ยังไม่เป็นที่เเน่นอน

คาเวนดิช เฮกับชัยชนะ        มาร์ค คาเวนดิช นักปั่นเมืองผู้ดี คว้าชัยสเตจที่ 7 ของศึกตูร์ เดอ ฟรองซ์ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นชัยชนะสเตจที่ 2 ของเจ้าตัวประจำปีนี้              การแข่งขันจักรยานทางไกลที่เก่าแก่ที่สุดรายการ ตูร์ เดอ ฟรองซ์ ประจำปี 2011 ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นการชิงชัยสเตจที่ 7 เส้นทางจากเลอ ม็องส์ ถึง ชาโตรูซ์ ระยะทาง 218 กิโลเมตร              ปรากฎว่า มาร์ค คาเวนดิช จากทีมเอชทีซี ไฮห์โรด สปินท์ช่วงท้ายเบียด อเล็กซานโดร เพทัคคี จากทีมลัมเปร และ อังเดร เกรเพล จากทีมโอเมกา ฟาร์มา-ล็อตโต เข้าเส้นชัยคันแรกด้วยเวลา 5 ชั่วโมง 38 นาทีกับ 53 วินาที              โดย คาเวนดิช เพิ่งชนะสเตจที่ 5 ของศึกตูร์ เดอ ฟรองซ์ เมื่อวันพุธที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา และถ้ารวมทั้งหมดก็เป็นการชนะสเตจที่ 17 ในอาชีพของน่องเหล็กวัย 26 ปี ซึ่งสเตจแรกเกิดขึ้นที่ชาโตรูซ์แห่งนี้เช่นกันเมื่อปี 2008              ขณะที่ คาเวนดิช ได้ฉลองชัยชนะในสเตจนี้ แต่เพื่อนร่วมชาติชาวเมืองผู้ดีอย่าง แบรดลีย์ วิกกินส์ หนึ่งตัวเต็งจากทีมสกาย เจออุบัติเหตุช่วง 40 กิโลเมตรสุดท้ายจนกระดูกไหปลาร้าแตกและต้องถอนตัวจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดายสำหรับ วิกกินส์ ซึ่งเคยทำเวลารวมเป็นอันดับ 4 เมื่อปี 2009              นอกจากนี้ ทอม บูเนน อดีตแชมป์โลก 2005 จากทีมควิกสเต็ป ก็ถอนตัวจากการแข่งขันเช่นกัน เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ได้รับจากอุบัติเหตุเมื่อ 2 วันก่อนยังไม่หาย              ส่วน ธอร์ ฮูชอฟด์ จากทีมการ์มิน-เซอร์เวโล ยังได้สวมเสื้อเหลืองต่อไปในฐานะผู้นำเวลาร่วมด้วยเวลา 28 ชั่วโมง 29 นาทีกับ 27 วินาที ทิ้งห่าง คาเดล อีแวนส์ จากทีมบีเอ็มซี เรซซิ่งอยู่ 1 วินาที              สำหรับสเตจที่ 8 จะแข่งขันในวันเสาร์ 9 กรกฎาคมนี้ เส้นทางจาก Aigurande ถึง Super-Besse Sancy ซึ่งเป็นการปั่นขึ้นภูเขาขนาดกลางครั้งแรก ระยะ 189 กิโลเมตร คอสตา คว้าชัยชนะสเตจที่ 8        รุย คอสตา น่องเหล็กชาวโปรตุกีส เอาชนะบรรดาตัวเต็งในช่วงของการปั่นขึ้นเขาระยะสุดท้ายจนเข้าเส้นชัยคันแรกคว้าชัยชนะสเตจที่ 8 ของศึกตูร์ เดอ ฟรองซ์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (9 ก.ค.) การแข่งขันจักรยานทางไกลที่เก่าแก่ที่สุดรายการ ตูร์ เดอ ฟรองซ์ ประจำปี 2011 ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นการชิงชัยสเตจที่ 8 เส้นทางจาก เอกูรองด์ ถึง ซูแปร์-เบส ซองซี เป็นการปั่นขึ้นภูเขาขนาดกลางระยะทาง 189 กิโลเมตร              ปรากฎว่า รุย คอสตา จากทีมโมวิสตาร์ ปั่นเข้าเส้นชัยคันแรกด้วยเวลา 4 ชั่วโมง 36 นาทีกับ 46 วินาที ทิ้งอันดับสองอย่าง ฟิลิปป์ กิลเบิร์ต น่องเหล็กชาวเบลเยี่ยมจากทีมโอเมกา ฟาร์มา-ล็อตโต ห่าง 12 วินาที              ขณะที่ คาเดล อีแวนส์ ชาวออสเตรเลียนจากทีมบีเอ็มซี นำหน้านักปั่นกลุ่มใหญ่ซึ่งรวมถึงตัวเต็งอย่าง "แชมป์เก่า" อัลแบร์โต คอนทาดอร์ จากทีมแซ็กโซ แบงก์, แอนดี ชเล็ค รองแชมป์ 2 สมัยซ้อนจากทีมลีโอพาร์ด แทร็ก และ ธอร์ ฮูชอฟด์ ผู้นำเวลารวมจากทีมการ์มิน-เซอร์เวโล เข้าเส้นชัยตามมาด้วยเวลาที่ห่างจาก คอสตา อยู่ 15 วินาที              ด้าน ฮูชอฟด์ แม้ถูกคาดหมายว่าจะเสียตำแหน่งผู้นำเวลารวมเมื่อถึงสเตจที่เริ่มขึ้นเขา แต่นักปั่นชาวนอร์เวย์ก็ยังรักษาเสื้อเหลืองไว้ได้ต่อไป โดยมีเวลารวม 33 ชั่วโมง 6 นาทีกับ 28 วินาที ห่างจากอันดับสอง อีแวนส์ อยู่ 1 วินาทีเท่าเดิม              สำหรับวันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคมนี้จะเป็นการแข่งขันสเตจที่ 9 เส้นทางจาก อิสซัวร์ ถึง แซงต์-ฟลัวร์ เป็นการปั่นขึ้นภูเขาขนาดกลางระยะทาง 208 กิโลเมตร  หลุยส์-ลีออง ซานเชซ น่องเหล็กเลือดกระทิง คว้าชัยศึกตูร์ เดอ ฟรองซ์ สเตจที่ 9 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (10 ก.ค.) ขณะที่ โธมัส โวคเลอร์ นักปั่นน้ำหอมเข้าเส้นชัยลำดับสองจนกลายเป็นผู้นำเวลารวมได้สวมเสื้อเหลือง ซานเซช คว้าแชมป์สเตจที่ 9        การแข่งขันจักรยานทางไกลที่เก่าแก่ที่สุดรายการ ตูร์ เดอ ฟรองซ์ ประจำปี 2011 ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นการชิงชัยสเตจที่ 9 เส้นทางจาก อิสซัวร์ ถึง แซงต์-ฟลัวร์ เป็นการปั่นขึ้นภูเขาขนาดกลาง ระยะทาง 208 กิโลเมตร              ปรากฎว่าในช่วง 2 กิโลเมตรสุดท้ายเป็นการขับเคี่ยวกันของผู้นำสามคนที่ฉีกหนีมาจากกลุ่มนักปั่นคนอื่น ประกอบด้วย หลุยส์-ลีออง ซานเชซ จากทีมโรโบแบงก์, โธมัส โวคเลอร์ จากทีมยูโรคาร์ และ แซนดี คาซาร์ จากทีมเอฟดีเจ ก่อนที่ ซานเชซ หนีคู่แข่งทั้งสองคนเข้าเส้นชัยคันแรกด้วยเวลา 5 ชั่วโมง 27 นาที 9 วินาที ทิ้งห่างจาก โวคเลอร์ และ คาซาร์ เป็นเวลา 5 วินาทีและ 13 วินาทีตามลำดับ              ด้าน คาเดล อีแวนส์ จากทีมบีเอ็มซี, แอนดี ชเล็คส์ จากทีมลีโอพาร์ด เทร็ก และ "แชมป์เก่า" อัลแบร์โต คอนทาดอร์ จากทีมแซ็กโซแบงก์ อยู่ในกลุ่มนักปั่นอีก 10 กว่าคนที่เข้าเส้นชัยตามมาด้วยเวลาที่ห่างจาก ซานเชซ 3 นาที 59 วินาที              ขณะที่ผู้นำเวลารวม ธอร์ ฮูชอฟด์ จากทีมการ์มิน เซอร์เวโล เข้าเส้นชัยตามหลังผู้ชนะ 6 นาที 47 วินาที เสียเสื้อเหลืองไปให้แก่ โวคเลอร์ ที่ทำเวลารวม 38 ชั่วโมง 35 นาที 11 วินาที ทิ้งห่างอันดับสอง ซานเชซ อยู่ 1 นาที 49 วินาที ส่วน อีแวนส์ หล่นมาอยู่ที่สามตามหลัง 2 นาที 26 วินาที              การแข่งขันวันนี้มีอุบัติเหตุรุนแรงเกิดขึ้นในช่วงกิโลเมตรที่ 90 ที่นักปั่นกว่า 10 คนชนกันและมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 4 คน รวมถึง อเล็กซานเดอร์ วิโนคูรอฟ น่องเหล็กชาวคาซักซึ่งเคยคว้าอันดับสามเมื่อปี 2003 กระดูกต้นขาหักจนต้องถอนตัวจากการแข่งขัน เช่นเดียวกับ เจอร์เกน ฟาน เดน บรอก ชาวเบลเยี่ยมซึ่งปีที่แล้วคว้าอันดับ 5 เนื่องจากกระดูกไหปลาร้าหัก              สำหรับวันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคมจะหยุดพักการแข่งขัน และกลับมาแข่งขันสเตจที่ 10 ในวันอังคารที่ 12 กรกฎาคม เส้นทางจาก ออริลยัค ถึง คาร์โมซ์ ระยะทาง 158 กิโลเมตร คอนทาดอร์        อัลแบร์โต คอนทาดอร์ น่องเหล็กสแปนิช เจ้าของแชมป์ตูร์ เดอ ฟรองซ์ สามสมัย ยืนยันว่าจะกลับไปป้องกันแชมป์ศึกจักรยานทางไกลที่แดนน้ำหอมในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้แน่นอน แม้ประเด็นที่ถูกกล่าวหาว่าใช้สารกระตุ้นยังไม่ได้ข้อยุติ          คอนทาดอร์ กำลังรอฟังการพิจารณาจากศาลกีฬาโลก (ซีเอเอส) ซึ่งจะตัดสินคำอุทธรณ์ของสหภาพจักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ในเดือนสิงหาคมนี้ จากการที่น่องเหล็กวัย 28 ปีตรวจโด๊ปไม่ผ่านระหว่างศึกตูร์ เดอ ฟรองซ์ เมื่อปีที่แล้ว          ขณะที่ยังรอคำตัดสิน ยอดนักปั่นทีมแซกโซแบงค์-ซันการ์ด สามารถลงแข่งขันตามปกติได้ ซึ่งเจ้าตัวเพิ่งคว้าแชมป์รายการจีโร ดิ อิตาเลีย ที่ประเทศอิตาลี เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และ ล่าสุด คอนทาดอร์ ยืนยันว่าจะลงชิงชัยศึกตูร์ เดอ ฟรองซ์ ประจำปี 2011 ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 2-24 กรกฎาคม เพื่อลุ้นแชมป์สมัยที่ 4          "ผมจะอยู่ที่ตูร์ เดอ ฟรองซ์ มันเป็นการแข่งขันที่ท้าทาย ผมได้ปรึกษากับทีมแล้ว ไม่มีข้อสงสัยว่ามันเป็นสิ่งสำคัญต่อทีมและสปอนเซอร์ที่ผมจะไปที่นั้น ตูร์ เดอ ฟรองซ์เป็นการแข่งขันที่ดีที่สุด มีนักปั่นชั้นยอดร่วมชิงชัย นั้นเป็นสิ่งที่สร้างแรงกระตุ้นให้ผม" คอนทาดอร์ กล่าว อันเดร ไกรเปิล นักปั่นชาวเยอรมนี เร่งความเร็วในช่วง 20 เมตรสุดท้ายแซงหน้า มาร์ค คาเวนดิช นักปั่นชาวอังกฤษ คว้าแชมป์ตูร์ เดอ ฟรองซ์ 2011 สเตจที่ 10 การแข่งขันจักรยานทางไกลที่เก่าแก่ที่สุด รายการ ตูร์ เดอ ฟรองซ์ ประจำปี 2011 ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันอังคารที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นการชิงชัยสเตจที่ 10 เส้นทางจาก ออรีญัค ถึง การ์โมซ์ ระยะทาง 158 กิโลเมตร ปรากฏว่าการขับเคี่ยวหาผู้ชนะของสเตจนี้ในช่วงก่อนเข้าเส้นชัย เมื่อ อันเดร ไกรเปิล นักปั่นชาวเยอรมนี ทีมโอเมกา ฟาร์มา-ล็อตโต เร่งสปีดแซง มาร์ค คาเวนดิช นักปั่นชาวอังกฤษ ทีมเอชทีซี-ไฮโรด ในช่วง 20 เมตรสุดท้ายเข้าเส้นชัยเป็นคันแรกชนิดที่ต้องตัดสินด้วยภาพถ่าย โดยใช้เวลา 3 ชั่วโมง 31 นาที 21 วินาทีเท่ากัน ขณะที่ อัลเบร์โต คอนทาดอร์ แชมป์เก่าชาวสเปน ทีมแซกโซ แบงค์ ซันการ์ด แม้จะทำเวลาได้เท่ากับ อันเดร ไกรเปิล แต่ถูกจัดให้เข้าเส้นชัยเป็นลำดับที่ 31 ด้าน โธมัส โวคเลอร์ นักปั่นชาวฝรั่งเศสจากทีมยุโรปคาร์คว้าอันดับ 36 ในสเตจนี้ ซึ่งเพียงพอต่อการรักษาเสื้อเหลืองเอาไว้ได้ โดยรั้งตำแหน่งผู้นำเวลารวมที่ 42 ชั่วโมง 6 นาที 42 วินาที นำ หลุยส์-เลออน ซานเชซ นักปั่นชาวสเปน ทีมราโบแบงค์ 1 นาที 49 วินาที สำหรับสเตจที่ 11 จะแข่งขันกันต่อในวันนี้ โดยเป็นเส้นทางจาก บลาย เลส์ มีนส์ ถึง ลาโวร์ ระยะทาง 167.5 กิโลเมตร มาร์ค คาเวนดิช นักปั่นชาวอังกฤษ คว้าแชมป์สเตจที่ 11 ศึกจักรยานทางไกล ตูร์ เดอ ฟรองซ์ 2011 ท่ามกลางสายฝนที่โปรยลงมา ส่วนเสื้อเหลืองยังอยู่กับ โธมัส โวคเลอร์ เช่นเดิม การแข่งขันจักรยานทางไกลที่เก่าแก่ที่สุด รายการ ตูร์ เดอ ฟรองซ์ ประจำปี 2011 ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันพุธที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นการชิงชัยสเตจที่ 11 เส้นทางจาก บลาย เลส์ มีนส์ ถึง ลาโวร์ ระยะทาง 167.5 กิโลเมตร ซึ่งการขับเคี่ยวมาเข้มข้นเอาในช่วงก่อนเข้าเส้นชัยท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย โดยมี 6 นักปั่นที่บดบี้กันมาตั้งแต่ช่วง 15 กิโลเมตรสุดท้ายจนถึง 4 กิโลเมตรสุดท้าย ก่อนที่ มาร์ค คาเวนดิช นักปั่นชาวอังกฤษ ทีมเอชทีซี ไฮโรด จะเบียดเข้าเส้นชัยเป็นคันแรกในที่สุดด้วยเวลา 3 ชั่วโมง 46 นาที 7 วินาที ปล่อยให้ อันเดร ไกรเปิล ผู้ชนะสเตจที่ 10 ชาวเยอรมนี และ ไทเลอร์ ฟาร์ราร์ แชมป์สเตจที่ 3 ชาวอเมริกัน ซึ่งทำเวลาเท่ากันได้อันดับ 2 และ 3 ในสเตจนี้ตามลำดับ ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นการคว้าแชมป์สเตจหนที่ 3 ในตูร์ เดอ ฟรองซ์ ปีนี้ของ มาร์ค คาเวนดิช และยังเป็นแชมป์สเตจครั้งที่ 18 ตลอดการเข้าร่วมแข่งขันตูร์ เดอ ฟรองซ์ น้อยกว่าที่ แลนซ์ อาร์มสตรอง ตำนานแชมป์ 7 สมัยชาวอเมริกันเคยทำไว้เพียง 4 ครั้งเท่านั้น ขณะที่สถิติคว้าแชมป์สเตจสูงสุดของตูร์ เดอ ฟรองซ์ ยังคงเป็นของ เอ็ดดี แมร์กซ จากเบลเยียม ที่ทำได้ถึง 34 ครั้ง ไม่เพียงเท่านั้น มาร์ค คาเวนดิช ยังทำคะแนนขึ้นนำเป็นอันดับ 1 ในการชิงเสื้อเขียวซึ่งเป็นของผู้ชนะในประเภทสปรินท์ โดยเก็บไปแล้ว 251 คะแนน ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง โฆเซ ฆัวกิน โรฆาส คู่แข่งชาวสเปน ทีมโมวิสตาร์อยู่ 16 คะแนน ส่วนเจ้าของเสื้อเหลืองยังคงเป็น โธมัส โวคเลอร์ นักปั่นชาวฝรั่งเศส ทีมยุโรปคาร์ โดยทำเวลารวม 45 ชั่วโมง 52 นาที 39 วินาที อันดับ 2 หลุยส์-เลออน ซานเชซ ขณะที่ อัลเบร์โต คอนทาดอร์ แชมป์เก่าชาวสเปน ทีมแซกโซ แบงค์ ซันการ์ด ยังรั้งที่ 16 ในอันดับเวลารวม ตามหลัง โธมัส โวคเลอร์ 4 นาที 7 วินาที สำหรับสเตจที่ 12 จะแข่งขันกันอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ซึ่งจะเข้าสู่เส้นทางบนเทือกเขาปีเรนีสจาก กูโญซ์ ถึง ลูซ์-อาร์ดิด็อง ระยะทาง 211 กิโลเมตร   ซามูเอล ซานเชซ นักปั่นชาวสเปน คว้าแชมป์สเตจที่ 12 ศึกจักรยานทางไกล "ตูร์ เดอ ฟรองซ์ 2011" ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นช่วงเริ่มเข้าสู่เส้นทางบนเทือกเขาปีเรนีสจาก กูโญซ์ ถึง ลูซ์-อาร์ดิด็อง ระยะทาง 211 กิโลเมตร โดย เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2008 ประเภทจักรยานถนนเร่งแซงขึ้นมาเป็นผู้นำในช่วง 1 กิโลเมตรสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 6 ชั่วโมง 1 นาที 15 วินาที      อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งเสื้อเหลืองหรือผู้นำในเวลารวมยังคงเป็น โธมัส โวคเลอร์ น่องเหล็กชาวฝรั่งเศส โดยแม้ โวคเลอร์ จะได้เพียงอันดับ 9 ในสเตจนี้ตามหลัง ซานเชซ 50 วินาที แต่ยังนำต่อไปที่  51 ชั่วโมง 54 นาที 44 วินาที ขณะที่ แฟรงค์ ชเล็ค ขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 2 ตามหลังผู้นำ 1 นาที 49 วินาที ส่วน “แชมป์เก่า” อัลเบร์โต คอนทาดอร์ ดีกรีแชมป์ 3 สมัยชาวสเปน ที่ได้อันดับ 8 สเตจนี้ ขึ้นมาอยู่ที่ 7 บนตารางเวลารวม ไล่จี้ โวคเลอร์ เหลือ 4 นาที โดยวันนี้ จะเป็นเส้นทางขึ้นเขาระยะทาง 152.5 กิโลเมตรจาก โป ถึง ลูร์ดส   16 ก.ค. - ธอร์   ฮูชอฟด์ เร่งเครื่องช่วงสองกิโลเมตรสุดท้าย ก่อนแซงหน้าคว้าแชมป์สเตจ 13 "ตูร์ เดอ ฟรองซ์"  ธอร์ ฮูชอฟด์ นักปั่นชาวนอร์เวย์ คว้าแชมป์ช่วงที่ 13  "ตูร์ เดอ ฟรองซ์ 2011"  ซึ่งเป็นช่วงที่สองของเส้นทางบนเทือกเขาปีเรนีส จาก โป ถึง ลูร์ดส ระยะทาง 152.5 กิโลเมตร โดยเร่งเครื่องช่วง 2 กิโลเมตรสุดท้าย แซงหน้า เฌเรมี รัว น่องเหล็กชาวฝรั่งเศสที่ขึ้นนำเกือบตลอด เข้าเป็นคันแรก 3 ชั่วโมง 47 นาที 36 วินาที โดยเป็นแชมป์สเตจแรกของเขาในตูร์ เดอ ฟรองซ์ ปีนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม โธมัส โวคแลร์ นักปั่นเจ้าถิ่นยังคงครองเสื้อเหลืองได้เป็นสเตจที่ 5 ติดต่อกัน แม้ว่าจะเข้าเส้นชัยอันดับที่ 17  55 ชั่วโมง 49 นาที 57 วินาที นำหน้าอันดับ 2 อย่าง ฟรองซ์ ชเล็ค น่องเหล็กลักเซมเบิร์ก 1 นาที 49 วินาทีเท่าเดิม โดยช่วงที่ 14 วันนี้ ยังคงเป็นเส้นทางบนภูเขาจาก แซงต์-โกด็องส์ ถึง ปลาโต เดอ เบย ระยะทาง 168.5 กิโลเมตร.  ชัลเล วาเนนแดต์ นักปั่นชาวเบลเยียม ทีมโอเมกา ฟาร์มา-ล็อตโต คว้าแชมป์สเตจที่ 14 ศึกจักรยานทางไกล ตูร์ เดอ ฟรองซ์ ที่ฝรั่งเศส ขณะที่เจ้าของเสื้อเหลืองยังเป็นของ โธมัส โวคแลร์ ทีมยุโรปคาร์ เช่นเดิม การแข่งขันจักรยานทางไกลที่เก่าแก่ที่สุด รายการตูร์ เดอ ฟรองซ์ ประจำปี 2011 ที่ประเทศฝรั่งเศส เป็นการชิงชัยกันในสเตจที่ 14 ซึ่งถือเป็นด่านที่ 3 ของเส้นทางบนเทือกเขาปีเรนีส จาก แซงต์-โกด็องส์ ถึง ปลาโต เดอ เบย ระยะทาง 168.5 กิโลเมตร ปรากฏว่า ชัลเล วาเนนแดต์ นักปั่นชาวเบลเยียม ทีมโอเมกา ฟาร์มา-ล็อตโต เข้าเส้นชัยเป็นคันแรก โดยใช้เวลา 5 ชั่วโมง 13 นาที 25 วินาที นำหน้า ซามูเอล ซานเชส นักปั่นชาวสเปน ทีมอุสคาเทล-อุสคาดี อยู่ 21 วินาที ส่วนอันดับ 3 แอนดี ชาเล็ค ทีมลีโอพาร์ด-เทร็ค โดยตามหลังผู้นำอยู่ 46 วินาที ขณะที่ผลงานของอัลเบร์โต คอนตาดอร์ แชมป์เก่าจากสเปน เข้าเส้นชัยเป็นคันที่ 6 ตามผู้นำ 48 วินาที ส่วนตำแหน่งผู้นำเวลารวมยังเป็นของ โธมัส โวคแลร์ นักปั่นเจ้าถิ่น ทีมยุโรปคาร์ ที่ยังคงรักษาเสื้อเหลืองไว้ได้อย่างเหนียวแน่นเป็นสนามที่ 6 ติดต่อกัน โดย โธมัส โวแคลร์ ทำเวลารวมเพิ่มเป็น 61 ชั่วโมง 4 นาที 10 วินาที แม้วันนี้จะเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 7 ตามหลังผู้นำอยู่ 48 วินาทีก็ตาม การแข่งขันสเตจที่ 15 จะทำการชิงชัยกันในวันนี้ เส้นทางจากลิโมซ์ ถึง มงต์เปลิเยร์ ระยะทาง 192.5 กิโลเมตร การแข่งขันจักรยานทางไกลที่เก่าแก่ที่สุด รายการ ตูร์ เดอ ฟรองซ์ ประจำปี 2011 ที่ประเทศฝรั่งเศส เป็นการชิงชัยกันในสเตจที่ 15 เส้นทางจาก ลิโมซ์ ถึง มงต์เปลิเยร์ ระยะทาง 192.5 กิโลเมตร ปรากฏว่า มาร์ค คาเวนดิช นักปั่นชาวอังกฤษ ทีมเอชทีซี-ไฮโรด เข้าป้ายเป็นคันแรกของสเตจนี้ โดยใช้เวลาไปทั้งสิ้น 4 ชั่วโมง 20 นาที 24 วินาที พร้อมคว้าเสื้อเขียวไปใส่เป็นสเตจที่ 4 ของเจ้าตัวปีนี้ โดยมี ไทเลอร์ ฟาร์ราร์ นักปั่นชาวอเมริกัน และ อเลสซานโดร เปตัคคี นักปั่นชาวอิตาลี ตามมาเป็นอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ ส่วนตำแหน่งผู้นำเวลารวมรอบนี้ยังตกเป็นของ โธมัส โวคแลร์ นักปั่นเจ้าถิ่น ทีมยุโรปคาร์ ยังคงรักษาเสื้อเหลืองไว้ได้อย่างเหนียวแน่นเป็นสนามที่ 7 ติดต่อกันแล้ว โดยทำเวลารวมเพิ่มเป็น 65 ชั่วโมง 24 นาที 34 วินาที สำหรับการแข่งขันสเตจที่ 16 จะกลับมาทำการแข่งขันกันต่อในวันที่ 19 ก.ค.นี้ เส้นทางจาก ซอง-พอล-ทัวร์-ชาโตซ์ ถึง กาป ระยะทาง 162.5 กิโลเมตร

ผลการเเข่งขันปั่นจักรยานในปัจจุบันเเต่ยังไม่เป็นที่เเน่นอน

คาเดล อีแวนส์ นักปั่นชาวออสเตรเลีย ของทีมบีเอ็มซี เรซซิง คว้าแชมป์สเตจที่ 4 ของศึกตูร์ เดอ ฟรองซ์ พร้อมคว้าเสื้อขาวแดงไปสวมใส่หลังมีคะแนนนำในส่วนของเจ้าภูเขาอยู่ที่ 2 คะแนน

การแข่งขันจักรยานทางไกลที่เก่าแก่ที่สุดรายการ ตูร์ เดอ ฟรองซ์ ประจำปี 2011 ที่ฝรั่งเศส เป็นการชิงชัยสเตจที่ 4 เส้นทางจาก ลอริยงต์ ถึง มูร์-เดอ-เบรตาเญ ระยะทาง 172.5 กิโลเมตร

ปรากฏว่า คาเดล อีแวนส์ นักปั่นชาวออสเตรเลีย ของทีมบีเอ็มซี เรซซิง เข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 4 ชั่วโมง 11 นาที 39 วินาที ชนะ "แชมป์เก่า" อัลเบอร์โต คอนทาดอร์ จากสเปน ไปเพียงเฉียดฉิว นอกจากนั้นในสเตจนี้ อีแวนส์ ยังทำคะแนนนำในส่วนของเจ้าภูเขาได้สำเร็จและคว้าเสื้อลายขาวแดงไปสวมใส่ มีอยู่ 2 คะแนน
อย่างไรก็ตาม ธอร์ ฮูชอฟด์ แชมป์โลกชาวนอร์เวย์ ที่เข้าเส้นชัยเป็นคนที่ 6 ของสเตจที่ 4 ยังคงครองตำแหน่งผู้นำเวลารวมอยู่เช่นเดิม โดยทำเวลารวมเพิ่มเป็น 13 ชั่วโมง 58 นาที 25 วินาที โดยมี คาเดล อีแวนส์ แชมป์สเตจนี้ ตามหลังอยู่แค่ 1 วินาที
สำหรับสเตจที่ 5 จะแข่งขันในวันนี้ เส้นทางจากกาอิกซ์ ถึง กาป เฟรเอล ระยะทาง 164.5 กิโลเมตร

มาร์ค คาเวนดิช น่องเหล็กจากสหราชอาณาจักร สังกัดทีมเอชทีซี-ไฮโรด คว้าชัยสเตจที่ 5 ของศึกตูร์ เดอ ฟรองซ์ คืนวันที่ 6 กรกฏาคมที่ผ่านมา ด้านผู้นำเวลารวมยังคงเป็นของธอร์ ฮูชอฟด์ นักปั่นชาวนอร์เวย์ ของทีมการ์มิน-เซอร์เวโล เช่นเดิม

    การแข่งขันจักรยานทางไกลที่เก่าแก่ที่สุดรายการ ตูร์ เดอ ฟรองซ์ ประจำปี 2011 ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันพุธที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นการชิงชัยสเตจที่ 5 เส้นทางจาก กาอิกซ์ ถึง กาป เฟรเอล ระยะทาง 164.5 กิโลเมตร
     
       โดยการแข่งขันวันนี้ มีอุบัติเหตุจักรยานชนกัน ณ บริเวณถนนบริททานี ส่งผลให้นักปั่นบางคนได้รับบาดเจ็บต้องหามส่งโรงพยาบาล โดยเฉพาะในรายของยาเนซ บราจโควิช นักปั่นชาวสโลวีเนีย ผู้นำทีมเรดิโอแช็ก ที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณศรีษะ จนต้องขึ้นรถพยาบาลเป็นการด่วน ส่วนอัลเบอร์โต คอนทาดอร์ แชมป์เก่าชาวสเปน มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ก็กลับมาแข่งขันต่อได้
     
       อย่างไรก็ตาม ผลการแข่งปรากฏว่า มาร์ค คาเวนดิช นักปั่นจากสหราชอาณาจักร ของทีมเอชทีซี-ไฮโรด เข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 3 ชั่วโมง 38 นาที 32 วินาที เบียดเอาชนะที่ 2 อย่างฟิลลิปเป กิลเบิร์ต นักปั่นชาวเบลเยียมของทีมโอเมกา ฟาร์มา-ล็อตโต ไปแบบเฉียดฉิว ขณะที่ผู้นำเวลารวมยังตกเป็นของ ธอร์ ฮูชอฟด์ นักปั่นชาวนอร์เวย์ ของทีมการ์มิน-เซอร์เวโล เช่นเดิม โดยวันนี้ทำเวลารวมเพิ่มเป็น 17 ชั่วโมง 36 นาที 57 วินาที นำหน้าคาเดล อีแวนส์ แชมป์สเตจที่แล้ว 1 วินาที
     
       สำหรับสเตจที่ 6 จะแข่งขันในวันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฏาคมนี้ เส้นทางจากดินอง ถึง ลิซิเออ ระยะทาง 226.5 กิโลเมตร

เอ็ดวาลด์ โบอัสสัน ฮาเกน นักปั่นชาวนอร์เวย์ ของทีมสกาย โปรไซคลิง ผงาดซิวแชมป์สเตจในตูร์ เดอ ฟรองซ์ เป็นครั้งแรกในชีวิต หลังเข้าเส้นชัยพร้อมเป็นแชมป์สเตจที่ 6 เมื่อคืนวันที่ 7 กรกฏาคมที่ผ่านมา ด้าน ธอร์ ฮูชอฟต์ น่องเหล็กของทีมการ์มิน-เซอร์เวโล รั้งตำแหน่งผู้นำเวลารวมเช่นเดิม

ฮาเกน (เสื้อดำ) เจ้าของแชมป์ในสเตจนี้

      การแข่งขันจักรยานทางไกลที่เก่าแก่ที่สุดรายการ ตูร์ เดอ ฟรองซ์ ประจำปี 2011 ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นการชิงชัยสเตจที่ 6 เส้นทางจากดินอง ถึง ลิซิเออ ระยะทาง 226.5 กิโลเมตร
     
       ผลปรากฏว่า เอ็ดวาลด์ โบอัสสัน ฮาเกน น่องเหล็กชาวนอร์เวย์ สังกัดทีมสกาย โปรไซคลิง เข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 5 ชั่วโมง 13 นาที 37 วินาที ซึ่งผลดังกล่าวทำให้เจ้าตัวกลายเป็นแชมป์สเตจในตูร์ เดอ ฟรองซ์ เป็นครั้งแรกในชีวิตอีกด้วย โดยเบียดในรายของแม็ทธิว ฮาร์ลีย์ กอสส์ นักปั่นของทีมเอชทีซี-ไฮโรด ไปอย่างเฉียดฉิว
     
       ขณะที่ผู้นำในเวลารวมยังตกเป็นของ ธอร์ ฮูชอฟต์ นักปั่นชาวนอร์เวย์ ของทีมการ์มิน-เซอร์เวโล เหมือนเดิม โดยสเตจนี้ทำเวลาเพิ่มเป็น 22 ชั่วโมง 50 นาที 34 วินาที นำหน้าคาเดล อีแวนส์ นักปั่นของทีมบีเอ็มซี เรซซิง ทีม ที่ตามมาเป็นอันดับ 2 อยู่ 1 วินาที
     
       สำหรับสเตจที่ 7 จะแข่งขันในวันศุกร์ที่ 8 กรกฏาคมนี้ เส้นทางจากเลอ ม็องส์ ถึง ชาโตรูซ์ ระยะทาง 218 กิโลเมตร

ผลการเเข่งขันปั่นจักรยานในปัจจุบันเเต่ยังไม่เป็นที่เเน่นอน

ฝรั่งเศส 5 ก.ค. - นักขี่ 2 ล้อ ชาวอเมริกัน ฉลองวันชาติสหรัฐอเมริกา ด้วยการคว้าแชมป์ตูร์ เดอ ฟรองซ์ ซึ่งถือเป็นคนแรกที่ทำได้ในประวัติศาสตร์ชาติ

ตูร์ เดอ ฟรองซ์ จักรยานทางไกลรายการเก่าแก่ที่สุดของโลก มีระยะเวลาจัดการแข่งขันจนถึงปีนี้ร่วม 100 ปีแล้ว โดยเมื่อวานนี้แข่งขันเป็นช่วงที่ 3 ระยะทาง 198 กิโลเมตร จากเมืองออลอง ซูร์แมร์ ถึงเมืองเลอดอง และตรงกับวันชาติของสหรัฐอเมริกา 4 กรกฎาคม ซึ่ง ไทเลอร์ ฟาร์ราร์ นักปั่นชาวอเมริกัน จากทีมการ์มิน เซเวโล เร่งสปีดในช่วง 150 เมตรสุดท้าย เฉือนเอาชนะ โรแมง เฟอิลลู นักปั่นชาวฝรั่งเศส เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ด้วยเวลา 4 ชั่วโมง 40 นาที 21 วินาที นับเป็นการฉลองวันชาติสหรัฐอเมริกาให้กับตัวเองอย่างยิ่งใหญ่ และถือเป็นนักขี่ 2 ล้อ ชาวอเมริกันคนแรกที่ทำได้ในรายการนี้

อย่างไรก็ดี เมื่อรวมคะแนนทั้ง 3 ช่วงแล้ว ธอร์ ฮูชอฟด์ แชมป์โลกชาวนอร์เวย์ ซึ่งเข้ามาเป็นอันดับที่ 6 ยังคงเป็นผู้นำได้สวมเสื้อสีเหลือง เวลารวม 9 ชั่วโมง 46 นาที 46 วินาที โดยมี เดวิด มิลเลอร์ จากอังกฤษ ตามมาเป็นอันดับ 2 

ตูร์เดอฟรองซ์

ตูร์เดอฟรองซ์ (ฝรั่งเศส: Tour de France หมายถึง การท่องฝรั่งเศส) หรือบางครั้งเรียกว่า ลากรองด์บูกล์ (La Grande Boucle) และ เลอตูร์ (Le Tour) เป็นการแข่งขันจักรยานทางไกลรอบประเทศฝรั่งเศส ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 3 สัปดาห์ในช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปี เริ่มจัดขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1903 จนถึงปัจจุบัน (เว้นการจัดแข่งขันในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสอง)

ตูร์เดอฟรองซ์ เป็นการแข่งขันจักรยานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก เป็นการแข่งขันจักรยานทางไกลหนึ่งในสามรายการใหญ่ ที่จัดการแข่งขันในยุโรป รวมเรียกว่า แกรนด์ทัวร์ โดยอีกสองรายการคือ

• จีโรดีตาเลีย (Giro d'Italia) จัดในอิตาลี ช่วงเดือนพฤษภาคม-ต้นมิถุนายน
• วูเอลตาอาเอสปันญา (Vuelta a España) จัดในสเปน ช่วงเดือนกันยายน

การแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1903 เกิดขึ้นเนื่องจากการท้าทายกันทางหน้าหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสชื่อ โลโต้ (L'Auto) มีนักแข่งเข้าร่วมจำนวนถึง 60 คน แต่สามารถเข้าเส้นชัยได้เพียง 21 คน ซึ่งกิตติศัพท์ของความยากลำบากในการแข่งขัน ทำให้การแข่งขันนี้เป็นที่สนใจ และมีผู้ชมการแข่งขันช่วงสุดท้ายในกรุงปารีส ตามสองฟากถนนระหว่างทางราว 100,000 คน และกลายเป็นประเพณี ที่การแข่งขันทุกครั้งจะไปสิ้นสุดที่ประตูชัย จตุรัสเดอเลตวล ปารีส

ในปี ค.ศ. 1910 เริ่มมีการจัดเส้นทางแข่งขันเข้าไปในเขตเทือกเขาแอลป์ ปัจจุบันเส้นทางการแข่งขันจะผ่านทั้งเทือกเขาแอลป์ ทางตะวันออก และเทือกเขาพีเรนีสทางใต้ของฝรั่งเศส

การแข่งขันตูร์เดอฟรองซ์จะแบ่งเป็นช่วง (stage) เพื่อเก็บคะแนนสะสม ผู้ชนะในแต่ละช่วงจะได้รับเสื้อ (jersey) เพื่อสวมใส่ในวันต่อไป โดยมีสีเฉพาะสำหรับผู้ชนะในแต่ละประเภท คือ

	สีเหลือง (maillot jaune - yellow jersey) สำหรับผู้มีคะแนนรวมสูงสุด
	สีเขียว (maillot vert - green jersey) สำหรับผู้ชนะในแต่ละสเตจ
	สีขาวลายจุดสีแดง (maillot à pois rouges - polka dot jersey) สำหรับผู้ชนะในเขตภูเขา ซึ่งมีชื่อเรียกเฉพาะว่า จ้าวภูเขา King of the Mountains
	สีขาว (maillot blanc - white jersey) สำหรับผู้มีคะแนนรวมสูงสุด ที่อายุต่ำกว่า 25 ปี
	สีรุ้ง (maillot arc-en-ciel - rainbow jersey) สำหรับผู้ชนะการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์โลก (World Cycling Championship) ซึ่งมีกฏว่าจะต้องใส่เสื้อนี้เมื่อแข่งขันในประเภทเดียวกับที่ผู้แข่งนั้นเป็นแชมป์โลกอยู่
	เสื้อแบบพิเศษ สำหรับผู้มีคะแนนรวมสูงสุด และชนะการแข่งขันช่วงย่อย และจ้าวภูเขา

ผู้ชนะเลิศ

รายชื่อผู้ชนะเลิศตั้งแต่ครั้งแรกในภาษาอังกฤษอยู่ทางด้านขวา

แลนซ์ อาร์มสตรอง นักแข่งจักรยานชาวอเมริกัน เป็นผู้ที่ชนะการแข่งขันตูร์เดอฟรองซ์มากที่สุด คือ 7 สมัยติดต่อกัน รองมาคือ มีเกล อินดูเรน (สเปน) ชนะ 5 สมัยติดต่อกัน แบร์นาร์ อีโนล (ฝรั่งเศส) ชาก อองเกอตีล (ฝรั่งเศส) และเอดดี เมิกซ์ (เบลเยียม) ชนะคนละ 5 สมัย

ในปี 2007 บียานร์น รีส์ ยอมรับว่าได้ใช้สารกระตุ้นระหว่างการแข่งขันทำให้ผู้จัดการแข่งขันปฏิเสธที่จะยอมรับสถานะผู้ชนะเลิศของเขา ทว่าสหพันธ์จักรยานสากล (Union Cycliste Internatinale - UCI) แถลงว่าหมดเวลาที่จะตัดสิทธิ์เขาจากการเป็นผู้ชนะเลิศ จึงเพียงแต่ขอร้องให้เขาคืนเสื้อสีเหลืองที่แสดงสถานะของการเป็นผู้ชนะเลิศ

ตูร์เดอฟรองซ์ (Tour de France)
ชื่อท้องถิ่น	เลอตูร์เดอฟรองซ์ (Le Tour de France)
ภูมิภาค	ฝรั่งเศสและประเทศใกล้เคียง
วันที่	7 ถึง 26 กรกฎาคม (ค.ศ. 2009)
ประเภท	Stage Race (Grand Tour)
General Director	Christian Prudhomme
ประวัติ
แข่งขันครั้งแรก	ค.ศ. 1903 (พ.ศ. 2446)
จำนวนการแข่งขัน	96 (ค.ศ. 2009)
ผู้ชนะคนแรก	โมรีซ กาแรง
ชนะมากที่สุด	แลนซ์ อาร์มสตรอง (7) ค.ศ. 1999-2005
ผู้ชนะล่าสุด	อัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์(2009)
Most career Yellow Jerseys	เอดดี เมิกซ์ (96) (111 overall incl. half stages)
ชนะแต่ละช่วงมากที่สุด	เอดดี เมิกซ์ (34)

ผู้ชนะเลิศตั้งแต่ปี ค.ศ. 1991

การแข่งขันครั้งที่	ปี ค.ศ.	ผู้ชนะเลิศ
78-82	1991-1995	มีเกล อินดูเรน (5 ปีติดต่อกัน)
83	1996	บียานร์น รีส์*
84	1997	แยน อุลริช
85	1998	มาร์โก แพนตานี
86-92	1999-2005	แลนซ์ อาร์มสตรอง (7 ปีติดต่อกัน)
93	2006	โอสการ์ เปเรย์โร ( ฟลอยด์ แลนดิส ถูกตัดสิทธิ์เนื่องจากใช้สารกระตุ้น[1])
94	2007	อัลเบอร์โต คอนทาดอร์
95	2008	คาร์ลอส ซาสเตร