วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

วันนี้ในอดีต...มารู้กันว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง...

24 ธันวาคม พ.ศ. 2361 : วันเกิด เจมส์ จูล นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษ


24 ธันวาคม พ.ศ. 2361 วันเกิด เจมส์ จูล (James Joule) นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษ ผู้ที่ค้นพบความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานกลและพลังงานความร้อน และเขายังค้นพบความสัมพันธ์ของความต้านทานไฟฟ้าและความร้อนที่ปล่อยออกมา ต่อมาเรียกว่ากฎของจูล เขาได้รับการยกย่องโดยใช้ชื่อของเขาเป็นชื่อหน่วยของความร้อน โดย 1 จูล = 4.2 แคลอรี่ เขาถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2432 ขณะอายุ 71 ปี


24 ธันวาคม พ.ศ. 2449:รายการวิทยุรายการแรกออกอากาศ โดยศาสตราจารย์ เรจิเนลด์ เฟสเซสเดนท์






24 ธันวาคม พ.ศ. 2449 วันนี้รายการวิทยุรายการแรกออกอากาศ โดยศาสตราจารย์ เรจิเนลด์ เฟสเซสเดนท์ จากรัฐแมสซาชูเสจ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกอากาศเกี่ยวกับบทกวี การสีไวโอลิน และสุนทรพจน์ ใช้คลื่น 429 แรงขับเคลื่อนจากพลังไอน้ำ ใช้สายอากาศสูง 429 ฟุต และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังน้ำ




24 ธันวาคม พ.ศ. 2522:Ariane1จรวดลำแรกของกลุ่มประเทศยุโรป ทะยานขึ้นสู่อวกาศเป็นผลสำเร็จ



วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

          15 เมืองที่เหมาะกับชีวิตวัยรุ่นอเมริกัน

Forbes ได้เปิดเผยการจัดอันดับเมืองในสหรัฐอเมริกาที่เหมาะกับการใช้ชีวิตของคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ในช่วงปี 2010-2012 โดย Moody’s Economy.com ซึ่งเกณฑ์ในการจัดลำดับนั้นมีเรื่องของความเจริญเติบโตของเมืองด้านต่างๆ เงินเดือนเฉลี่ยของวัยแรงงานอายุระหว่าง 24-34 ปี ซึ่งเป็นช่วงจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย (ช่วงอายุอ้างอิงตาม Payscale.com) อัตราการว่างงาน ข้อมูลสำมะโนประชากร จำนวนธุรกิจขนาดเล็กและจำนวนธุรกิจขนาดใหญ่ต่อหัว และร้อยละของสถาบันการศึกษาท้องถิ่นต่อจำนวนประชากรท้องถิ่น ซึ่งมีเมืองที่เหมาะสมกับการใช้ชีวิตของคนวัยแรงงานซึ่งจบการศึกษาแล้ว 15 เมือง ดังต่อไปนี้
 
อันดับที่ 15. Fairfield, Connecticut
รายงานประจำปีเกี่ยวกับการเติบโตของเมือง Bridgeport-Stamford-Norwalkรัฐ connecticut ในปี (2010-2012)  มีการเติบโตขึ้น 0.56 % ฐานเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ $58,800 ค่าครองชีพมีอัตราเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 136.3 % ของจำนวนประชากรชาวอเมริกัน 100 คน  มีวิทยาลัยระดับปริญญาตรีอยู่ในอัตรา 43.6 % ต่อจำนวนประชากรท้องถิ่น มี 1 ธุรกิจขนาดเล็กสำหรับ 39 ครัวเรือน และ 1 ธุรกิจขนาดใหญ่สำหรับ 891 ครัวเรือน ซึ่งมีอัตราการว่างงานอยู่ที่ 8.5 % สำหรับตลาดแรงงานจะมีกองทุนป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน และมีบริการทางการเงินสำหรับคนรุ่นใหม่ไฟแรง
อันดับที่ 14. Little Rock, Arkansas



Rock-North Little Rock-Conway ในรัฐ Arkansas จากรายงานประจำปี (2010-2012) มีการเติบโตในการจ้างงานที่ 1.24 % มีเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ $43,300 ค่าครองชีพอยู่ในอัตราเติบโตที่ 94.5 % ของจำนวนประชากรต่อจำนวนประชากรอเมริกัน 100 คน วิทยาลัยท้องถิ่นที่มีระดับปริญญาตรีอยู่ในอัตรา 26 % ต่อจำนวนประชากรท้องถิ่น มี 1 ธุรกิจขนาดเล็กต่อ 49 ครัวเรือน และมี 1 ธุรกิจขนาดใหญ่สำหรับ 705 ครัวเรือน มีอัตราการว่างงาน 7 % ด้วยความเพรียบพร้อมไปด้วยธุรกิจขนาดใหญ่ใน Little Rock จึงมีอัตราการว่างงานต่ำสุดเป็นอันดับที่ 18 จาก 100 เมืองทั่วสหรัฐอเมริกา และมีอัตราของความเจริญเติบโตในงานด้านสุขภาพอีกด้วย
อันดับที่ 13. Greenville, South Carolina



Greenville-Mauldin-Easley ใน South Carolina มีการเจริญเติบโตของงานจากรายงานประจำปี (2010-2012)อยู่ที่ 1.24 % มีเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ $47,900 ค่าครองชีพต่อจำนวนประชากรอเมริกัน 100 คน อยู่ที่ 95.5 % ของจำนวนประชากร มีวิทยาลัยท้องถิ่นที่ให้ปริญญาตรีอยู่ในอัตรา 27.9 % ต่อจำนวนประชากรท้องถิ่น มี 1 ธุรกิจขนาดเล็กต่อ 52 ครัวเรือน และมี 1 ธุรกิจขนาดใหญ่ต่อ 657 ครัวเรือน อัตราการว่างงาน 8.8 % Greenville ภูมิในนำเสนอบริษัทธุรกิจขนาดใหญ่อย่าง 3M, Honeywell และ Michelin North America ซึ่งมีอัตราการจ้างงานที่สูงและเป็นเมืองที่มีความเจริญเติบโตและมีค่าครองชีพต่ำ
อันดับที่ 12 Boston, Massachusetts 



Boston-Cambridge-Quincy ในรัฐ Massachusetts มีอัตราเฉลี่ยของการจ้างงานเติบโตในรายงานปี (2010-2012) อยู่ที่ 0.92 % อัตราเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ $54,400 อัตราค่าครองชีพต่อจำนวนประชากรชาวอเมริกัน 100 คน อยู่ที่ 119.5 % ของจำนวนประชากร มีวิทยาลัยปริญญาตรี 40.9 % ต่อจำนวนประชากรท้องถิ่น มี 1 ธุรกิจขนาดเล็กทุกๆ 46 ครัวเรือน และ 1 ธุรกิจขนาดใหญ่ทุกๆ 1,734 ครัวเรือน อัตราการว่างงาน 6.6 % แม้บอสตันจะเป็นหนึ่งในเมืองที่มีความคุ้มค่าในการอยู่อาศัย เงินเดือนที่สูง อัตราการว่างงานต่ำ แต่ยังมีจำนวนประชาการที่มีการศึกษาสูงอีกด้วย
อันดับที่ 11 Austin, Texas



Austin-Round Rock ในรัฐ Texas มีอัตราเฉลี่ยการเติบโตของงานในปี (2010-2012) อยู่ที่ 2.01 % เงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ $48,200 ค่าครองชีพต่อประชากรอเมริกันเฉลี่ย 100 คน อยู่ที่ 107.9 % ของจำนวนประชากร วิทยาลัยที่มีปริญญาตรี 38.7 % ต่อจำนวนประชากรท้องถิ่น มี 1 ธุรกิจขนาดเล็กทุกๆ 55 ครัวเรือน และมี 1 ธุรกิจขนาดใหญ่ ทุกๆ 973 ครัวเรือน มีอัตราการว่างงาน  6.7 % The Texas tech เป็นศูนย์กลางของอัตราการเจริญเติบโตที่แข็งแกร่งในเมือง และมีอัตราการว่างงานที่ต่ำ
อันดับที่ 10 Minneapolis-St. Paul, Minnesota 

Minneapolis-St. Paul-Bloomington ที่รัฐ Minnesota-Wisconsin มีอัตราเฉลี่ยการเจริญเติบโตของงานประจำปี (2010-2012) อยู่ที่ 0.58 % เงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ $51,000 ค่าครองชีพต่อจำนวนประชากรอเมริกัน 100 คน อยู่ที่ 100.2 % ของจำนวนประชากร วิทยาลัยที่ให้ปริญญาตรีอยู่ในอัตรา 37.6 % ต่อจำนวนประชากรท้องถิ่น มี 1 ธุรกิจขนาดเล็กในทุกๆ 45 ครัวเรือน และมี 1 ธุรกิจขนาดใหญ่ทุกๆ 1,447 ครัวเรือน อัตราการว่างงาน 6.3 % ที่ The Twin Cities มีฐานเงินเดือนค่อนข้างสูงและมีความเข้มข้นของธุรกิจขนาดเล็กและอัตราการว่างงานที่ต่ำ
อันดับที่ 9. Washington, D.C. 
9. Washington, D.C.

Washington-Arlington-Alexandria ใน D.C.-Va-.Md.-W.V. มีอัตราเฉลี่ยของการเติบโตของงานจากรายงานปี (2010-2012) ในอัตรา 1.11 % มีเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ $56,800 ค่าครองชีพต่อจำนวนประชากรอเมริกัน 100 คน เฉลี่ยอยู่ที่ 121.5 % ของจำนวนประชากร วิทยาลัยระดับปริญญาตรีมีอัตราอยู่ที่ 45.8 % ต่อจำนวนประชากรท้องถิ่น มี 1 ธุรกิจขนาดเล็กทุกๆ 50 ครัวเรือน และมี 1 ธุรกิจขนาดใหญ่ทุกๆ 1,898 ครัวเรือน มีอัตราการว่างงาน 5.7 % กรุงวอชิงตัน ดีซี เป็นศูนย์กลางของรัฐบาลและองค์กรเอกชนของประเทศ ซึ่งมีอัตราการว่างงานต่ำที่สุดอันดับที่ 5 ของเมืองในสหรัฐอเมริกา และเป็นเมืองที่มีค่าเฉลี่ยเงินเดือนสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของการจัดอันดับอีกด้วย และยังมีสัดส่วนประชากรที่มีการศึกษาในระดับสูงเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศ
อันดับที่ 8 Colorado Springs, Colorado

8. Colorado Springs, Colo.

Colorado Springs มีรายงานอัตราการเจริญเติบโตของการจ้างงานในรายงานปี (2010-2012) อยู่ที่ 0.67 % มีเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ $49,300 อัตราค่าครองชีพต่อจำนวนประชากรอเมริกันเฉลี่ย 100 คน อยู่ในอัตรา 98.5 % ของจำนวนประชากร วิทยาลัยระดับปริญญาตรี 35.6 % ต่อจำนวนประชากรท้องถิ่น มี 1 ธุรกิจขนาดเล็กทุกๆ 47 ครัวเรือน และมี 1 ธุรกิจขนาดใหญ่ทุกๆ 695 ครัวเรือน  มีอัตราการว่างงานอยู่ที่ 9.3 % พื้นที่ในเขตนคร The Rocky Mountain เป็นสถานที่โดดเด่นและดึงดูดในผู้รับเหมาก่อสร้างและมหาวิทยาลัย ซึ่งสามารถมั่นใจได้ในการทำงานกับองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่และมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง 
อันดับที่ 7 Denver, Cololado



Denver-Aurora-Broomfield ในรัฐ Colorado มีอัตราเฉลี่ยการเติบโตของงานประจำปี (2010-2012) อยู่ที่ 1 % อัตราเงินเดือนเฉลี่ย $51,000 ค่าครองชีพต่อจำนวนประชากรชาวอเมริกันเฉลี่ย 100 คน อยู่ที่ 102.8 % ของจำนวนประชากร วิทยาลัยระดับปริญญาตรีมีอัตราอยู่ที่ 37.6 % ต่อจำนวนประชากรท้องถิ่น มี 1 ธุรกิจขนาดเล็กทุกๆ 43 ครัวเรือน และมี 1 ธุรกิจขนาดใหญ่ทุกๆ 1,020 ครัวเรือน มีอัตราการว่างงาน 8.5 %  โดยที่เมือง The Mile High City มีจำนวนของประชากรที่มีการศึกษาในระดับปริญญาตรี มีจำนวนของธุรกิจขนาดเล็กและการเจริญเติบโตของงานที่ดีต่อสุขภาพ มีบริษัทที่สำคัญ เช่น Lockheed Martin และ IBM
อันดับที่ 6 Portland, Maine

6. Portland, Maine

Portland-South Portland-Biddeford ในรัฐ Maine มีอัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ยของงานในรายงานประจำปี (2010-2012) อยู่ที่ 0.9 % มีเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ $41,000 มีค่าครองชีพต่อประชากรชาวอเมริกันเฉลี่ยอยู่ที่ 101.9 % ของจำนวนประชากร มีวิทยาลัยระดับปริญญาตรี 34.4 % ต่อจำนวนประชากรท้องถิ่น มี 1 ธุรกิจขนาดเล็กทุกๆ 35 ครัวเรือน และมี 1 ธุรกิจขนาดใหญ่ทุกๆ 696 ครัวเรือน มีอัตราการว่างงาน 6.2 % The New England ใน port town มีจำนวนธุรกิจขนาดเล็กต่อหัวประชากรสูงสุด มีประชากรในอัตราที่สูงในองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ และมีอัตราการว่างงานต่ำ
อันดับที่ 5 Omaha, Nebraska

5. Omaha, Neb.
Omaha-Council Bluffs ในรัฐ Nebraska และ Iowa มีอัตราเฉลี่ยการเติบโตของงานในปี (2010-2012) อยู่ที่ 0.82 % เงินเดือนเฉลี่ย $45,400 ค่าครองชีพต่อจำนวนประชากรชาวอเมริกันเฉลี่ย 100 คน อยู่ที่ 91.8 % ของจำนวนประชากร มีวิทยาลัยระดับปริญญาตรีอยู่ที่อัตรา 31.7 % ต่อจำนวนประชากรท้องถิ่น มี 1 ธุรกิจขนาดเล็กทุกๆ 50 ครัวเรือน และมี 1 ธุรกิจขนาดใหญ่ทุกๆ 754 ครัวเรือน อัตราการว่างงานอยู่ที่ 4.6 %  Warren Buffett’s  hometown มีอัตราการว่างงานที่ต่ำที่สุดในสหรัฐอเมริกา มีค่าครองชีพในเมืองที่ต่ำและมีจำนวนขององค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ที่สำคัญในเมือง
อันดับที่ 4 Salt Lake City, Utah



Salt Lake City ในรัฐ Utah มีอัตราเฉลี่ยการเจริญเติบโตของงานประจำปี (2010-2012) อยู่ที่ 1.32 % มีอัตราเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ $51,200 มีค่าครองชีพต่อจำนวนประชากรชาวอเมริกัน 100 คน เฉลี่ยอยู่ที่ 103.9 % ของจำนวนประชากร อัตราวิทยาลัยในระดับปริญญาตรีอยู่ที่ 29.7 % ต่อจำนวนประชากรท้องถิ่น มี 1 ธุรกิจขนาดเล็กในทุกๆ 43 ครัวเรือน และมี 1 ธุรกิจขนาดใหญ่ในทุกๆ 764 ครัวเรือน มีอัตราการว่างงาน 7.2 % มีธุรกิจขนาดเล็กตัวหัวมีจำนวนมากและมีความเข้มข้นสูงของธนาคารและบริการทางการเงินที่ดี และมีฉายาว่า “Crossroads of the West” เป็นเมืองที่เสนอโอกาสให้กับมืออาชีพรุ่นใหม่
อันดับที่ 3 Wisconsin, Madison



Madison ในรัฐ Wisconsin มีอัตราเฉลี่ยการเติบโตของงานในปี (2010-2012) อยู่ที่ 0.89 % มีอัตราเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ $47,100 มีค่าครองชีพเฉลี่ยต่อจำนวนประชากรชาวอเมริกัน 100 คน อยู่ที่ 102.6 % ของจำนวนประชากร มีอัตราวิทยาลัยระดับปริญญาตรี 41 % ต่อจำนวนประชากรท้องถิ่น มี 1 ธุรกิจขนาดเล็กทุกๆ 48 ครัวเรือน และมี 1 ธุรกิจขนาดใหญ่ทุกๆ 689 ครัวเรือน มีอัตราการว่างงาน 5.3 % โดยต้องของคุณรัฐบาลของประเทศที่ทำให้วิสคอนซินเป็นเมืองที่มีความพรั่งพร้อมไปด้วยอัตราการว่างงานที่ต่ำ มหาวิทยาลัยชื่อดัง the University of Wisconsin-Madison และมีตัวเลขของการเจริญเติบโตของบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพและบริษัทโฆษณา
อันดับที่ 2 Raleigh, North Carolina

2. Raleigh, N.C.

Raleigh-Cary ในรัฐ North Carolina มีอัตราการเติบโตของงานในปี (2010-2012) อยู่ที่ 2 % มีอัตราเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ $51,500 มีค่าครองชีพต่อจำนวนประชากรชาวอเมริกันเฉลี่ย 100 คน อยู่ที่ 104.4 % ของจำนวนประชากร มีอัตราของวิทยาลัยระดับปริญญาตรีอยู่ที่ 42.2 % ต่อจำนวนประชากรท้องถิ่น มี 1 ธุรกิจขนาดเล็กในทุกๆ 49 ครัวเรือน และมี 1 ธุรกิจขนาดใหญ่ในทุกๆ 770 ครัวเรือน มีอัตราการว่างงานอยู่ที่ 7.9 % The college town เป็นเมืองหนึ่งที่มีการประมาณการว่ามีอัตราการเจริญเติบโตของงานที่ดี มีเงินเดือนเฉลี่ยจากการจัดอันดับเมืองในสหรัฐอเมริกาดีที่สุดในลำดับที่ 16 สำหรับมื่ออาชีพรุ่นใหม่ 
อันดับที่ 1 Des Moines, Iowa



Des Moines-West Des Moines ในรัฐ Iowa มีอัตราเฉลี่ยการเติบโตของงานในปี (2010-2012) อยู่ที่ 0.99 % มี อัตราเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ $47,200 มีค่าครองชีพต่ออัตราประชากรชาวอเมริกัน 100 คน เฉลี่ยอยู่ที่ 92 % ต่อจำนวนประชากร มีวิทยาลัยระดับปริญญาตรีในอัตรา 33.8 % ต่อจำนวนประชากรท้องถิ่น มี 1 ธุรกิจขนาดเล็กทุกๆ 50 ครัวเรือน และมี 1 ธุรกิจขนาดใหญ่ทุกๆ 568 ครัวเรือน มีอัตราการว่างงาน 5.8 % The corn-belt city เป็นเมืองที่มีธุรกิจขนาดใหญ่ที่สุด มีอัตราการว่างงานน้อยมาก มีค่าครองชีพต่ำ และมีความเฟื่องฟูของมืออาชีพรุ่นใหม่ที่อยู่ในพื้นที่


วันยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง

25 พ.ย. วันยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง


UploadImage

  ผู้หญิง ถือเป็นเพศที่อ่อนแอ ด้วยเหตุนี้หรือเปล่า???ที่ทำให้ “ผู้หญิง”อย่างเราๆ มักถูกล่อลวงหรือล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำรุนแรงอย่างหนึ่ง รวมทั้งการปล่อยคลิปฉาวที่ปัจจุบันดูเหมือนจะเป็นเรื่องฮิตของดารา นักร้อง ที่กำลังเป็นที่นิยม ซึ่งปัญหาเหล่านี้มักจะไม่ได้รับการช่วยเหลือหรือเพิกเฉยจากผู้พบเห็น เพราะเข้าใจว่า นั่นเป็นปัญหาภายในครอบครัว ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว!!
            แต่ที่น่าตกใจ!!คือ เหยื่อที่ถูกกระทำส่วนใหญ่ ไม่ได้ดำเนินการเอาเรื่องกับผู้กระทำผิด ซึ่งเหตุผลอาจมีมากมายไม่ว่าจะหวาดกลัวการถูกทำร้ายซ้ำ เกรงสังคมจะตราหน้าให้อับอาย กลัวพ่อแม่ดุด่า เป็นต้น
            เพื่อรณรงค์ยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้น ทุกวันที่ 25 พ.ย.ของทุกปี องค์การสหประชาชาติจึงได้กำหนดให้เป็น “วันยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง”ขึ้น ด้วยเหตุนี้ หลายหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นกระทรวงยุติธรรม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยูนิเฟม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิเพื่อนหญิง ตลอดจนเครือข่ายยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง จึงได้รวมพลัง สร้างค่านิยม “ไม่เพิกเฉย”ต่อความรุนแรง พร้อมดำเนินโครงการรณรงค์ “หนึ่งเสียง หยุดความรุนแรงต่อผู้หญิง” โดย ได้รับพระกรุณาธิคุณจากพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ในการเป็นทูตสันถวไมตรีให้กับกองทุนการพัฒนาเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติในการ ต่อต้านความรุนแรงต่อผู้หญิง (UNIFEM) ในโครงการ Say NO to Violence Against Women  
            ซึ่งหากจะพูดถึงความรุนแรงต่อผู้หญิงจริงๆ แล้วนั้น หมายถึง “การ กระทำใดๆ ที่เป็นความรุนแรงที่เกิดจากอคติทางเพศ ซึ่งเป็นผลให้เกิดความทุกข์ทรมานแก่สตรี รวมทั้งการขู่เข็ญ คุกคาม กีดกันเสรีภาพทั้งในที่สาธารณะและในชีวิตส่วนตัว”
            โดย รูปแบบที่ปรากฏอยู่ในสังคมบ้านเรานั้นมีหลากหลายรูปแบบ ล้วนแต่เป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด และทุกข์ทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจของผู้หญิง ซึ่งความหลากหลายความรุนแรงต่อผู้หญิง...ที่สังคมไม่ควรควรมองข้ามแบ่งเป็น  
 
            ความรุนแรงทางเพศหลายคนนึกถึงแต่การถูกข่มขืน ซึ่งจริงๆ แล้ว มีตั้งแต่การแทะโลมด้วยสายตา และวาจา การอนาจาร ลวนลาม คุกคามทางเพศ การข่มขืน (รวมถึงการข่มขืนภรรยา) รุมโทรม การข่มขืนฆ่า ซึ่งส่วนใหญ่พบว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คือ ปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้หญิงถูกกระทำความรุนแรงทางเพศ  
            ความรุนแรงในครอบครัว ล่วง ละเมิด บังคับ ขู่เข็ญ ทำร้าย โดยบุคคลในครอบครัว อาจจะใช้กำลังทุบตีภรรยา ไม่รับผิดชอบครอบครัว นอกใจภรรยา ขายลูกสาว ด่าทอ ดูถูกเหยีดหยาม การปิดกั้นทางสังคมไม่ให้ติดต่อเพื่อน ญาติพี่น้อง หรือสังคมภายนอก เป็นต้น 
            การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ทั้งจากเพศสัมพันธ์ที่ไม่รับผิดชอบของฝ่ายชายหรือจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ และการไม่สามารถต่อรองเรื่องการคุมกำเนิดกับคู่ครองได้ 
            การติดโรคทางเพศสัมพันธ์ติดเชื้อเอดส์จากสามี หรือจากการถูกละเมิดทางเพศ
            การนำเสนอผู้หญิงเป็นวัตถุทางเพศเป็นการมองว่าผู้หญิงเป็นวัตถุที่สามารถ ดึงดูดได้ในสื่อลามกต่างๆ การโฆษณาสินค้า รวมทั้งการแอบถ่ายคลิปฉาวต่างๆ 
            และการล่อลวงมาบังคับค้าประเวณี หรือใช้แรงงานเยี่ยงทาส 
            โดยนายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนหญิง ให้ข้อมูลว่า จากสถิติการให้บริการของศูนย์พึ่งได้ในโรงพยาบาลประจำจังหวัด297แห่ง ในปี พ.ศ. 2550มีเด็ก สตรีและผู้สูงอายุที่ถูกกระทำทารุณเข้ารับบริการถึง 19,068ราย เป็นผู้หญิงอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 8,172 ราย และสถิติมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยพบความรุนแรงที่เกิดต่อผู้หญิง เป็นการกระทำของใกล้ชิด แฟน และสามี มากกว่าคนไม่รู้จักกันหรือคนแปลกหน้าซึ่งมีจำนวนน้อยมาก  
            ในส่วนของมูลนิธิเพื่อนหญิงได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนการกระทำความรุนแรงต่อผู้หญิงเฉลี่ยปีละ1,500รายและพบว่าปี 2551น่าจะเพิ่มถึง 1,600ราย โดย 80%เป็นการกระทำความรุนแรงในครอบครัวและ 20%เป็นคดีข่มขืนและภัยทางเพศ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ควรเป็นปัญที่ต้องรีบเร่งดำเนิการแก้ไขโดยด่วน  
            นอกจากนี้ยังพบว่า จากสถิติของกองวิจัยและวางแผนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่เดือนเมษายน–กันยายน พ.ศ. 2551 พบว่าความรุนแรงต่อผู้หญิงที่มีการแจ้งความดำเนินคดีการทำร้ายร่างกาย และข่มขืนกระทำชำเราสูงถึง 18,191 ราย และ 4,359 ราย ตามลำดับ อย่างไรก็ตามจากผลการสำรวจ และรวบรวมข้อมูลของมูลนิธิเพื่อนหญิง พบว่าหลายกรณีของความรุนแรงต่อผู้หญิงมีปัจจัยกระตุ้นก่อให้เกิดความรุนแรง มากขึ้น คือ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาเสพติด และการพนัน
            ด้านการสำรวจขององค์การอนามัยโลก พบ ว่าผู้หญิงร้อยละ 10-50 มีประสบการณ์ในช่วงชีวิตที่ถูกสามีหรือคู่รักของตนทำร้ายร่างกาย และผู้หญิงประมาณร้อยละ 12-25 เคยถูกสามีหรือคู่รักพยายามขืนใจหรือบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย ที่สำคัญ คือ ความรุนแรงที่ผู้หญิงได้รับจากคู่หรือสามีหรือผู้ชายอื่น เป็นสาเหตุสำคัญ 1 ใน 10 ของสาเหตุการตายของผู้หญิงอายุระหว่าง 15-44 ปี” 
              จาก ข้อมูลเบื้องต้น สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าความรุนแรงที่ผู้หญิงประสบจากคู่ของตนนั้นเป็นปัญหา ทางสุขภาพที่สำคัญและเป็นประเด็นที่แสดงถึงการผู้หญิงถูกคุกคามและละเมิด สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานในการที่จะมีชีวิตอย่างปลอดภัย 
            นับเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ และนี่!! คง จะถึงเวลาแล้ว ที่เราทุกคนต้องร่วมมือกัน เพราะคุณเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ด้วยการหยุดเพิกเฉย หากพบเห็นการกระทำรุนแรงต่อผู้หญิง ซึ่งวิธีการช่วยเหลือนั้นอาจมีหลายรูปแบบ เช่น หากพบเห็นการกระทำที่รุนแรงต่อผู้หญิงควรรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ หรืออาจเข้าไปช่วยเหลือหากทำได้
            ใน ส่วนของครอบครัว ควรปลูกฝังคุณธรรม ค่านิยมว่าชายหญิงนั้นเท่าเทียมกัน ควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน หยุดการทำร้ายคนในครอบครัว รวมถึงการช่วยกันสอดส่องดูแลเฝ้าระวังการป้องกันความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นได้ ภายในชุมชน สร้างความสัมพันธ์ที่ดี และที่สำคัญช่วยกันสร้างชุมชนที่ปลอดจากการดื่มสุราและสิ่งเสพติดอื่นๆ ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหาความรุนแรงต่างๆ
            และที่สำคัญทุกคนสามารถร่วมล งชื่อเพื่อแสดงจุดยืนในการสนับสนุน ให้มีการยุติการใช้ความรุนแรงต่อเด็กและสตรี และร่วมรณรงค์ให้วาระนี้ เป็นวาระเร่งด่วนของประชาคมโลกได้ที่ www.novaw.or.thโดยกองทุนการพัฒนาเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูนิเฟม (UNIFEM) จะ มอบรายชื่อของทุกคน ที่ร่วมลงนาม ให้กับ นาย บัน คี มุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ เพื่อเป็นการแสดงถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของคนไทย ในการร่วมกันต่อต้านการใช้ความรุนแรงต่อสตรีต่อไป
            สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องรีบแก้ไข โดยเริ่มจากจุดเล็กๆ ของสังคม อย่างเราๆ แล้ววันนี้คุณพร้อมที่จะเป็นหนึ่งเสียง เพื่อหยุดความรุนแรง ต่อผู้หญิง...แล้วหรือยัง!!!   

วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เตา นุก ญี่ปุ่นควันโขมงไม่ทราบสาเหตุ

http://static.truelife.com/blog/files/members/17/81916/146776/c15e1527.jpg


          สำนักข่าวโทรทัศน์ประเทศญี่ปุ่นเผยแพร่ภาพกลุ่มควันสีขาวพวยพุ่งขึ้นจากโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะวันนี้ (16 มี.ค. 54) โดยไม่ทราบสาเหตุ ที่บริเวณเตาปฏิกรณ์หมายเลข 4 ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถดับลงได้แล้ว
       
          โดยทีมวิศวกรต้องใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อควบคุมวิกฤตนิวเคลียร์ที่ โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ หลังระบบหล่อเย็นเสียหายจากแผ่นดินไหวและสึนามิ จนทำให้แกนปฏิกรณ์เกิดความร้อนสูงถึงระดับอันตราย
       
          ด้าน โตเกียว อิเล็คทริก เพาเวอร์ โค (เท็ปโก้) ระบุว่า ยังไม่ทราบแหล่งที่มาของควันดังกล่าว

10 ข่าวแปลก ที่น่าสนใจทั่วโลก

http://static.truelife.com/blog/files/members/17/81916/125007/64fe8.jpg

อันดับที่ 10 : ขายชีวิตทิ้งบนอีเมล์ (Your Money For My Life)

          หลังจากถูกภรรยาทิ้ง เอียน อัชเชอร์ หนุ่มเซลแมนขายพรม วัย 44 ปี ในนครเพิร์ท ของออสเตรเลีย ตัดสินใจทิ้งชีวิตเดิมๆ ทั้งหมด และนำชีวิตออกประมูลขายเป็นแพกเกจทางเว็บไซต์อีเบย์ ซึ่งรวมทั้งบ้านขนาด 3 ห้องนอน พร้อมเฟอร์นิเจอร์ กับรถมาสด้า ซีดาน รุ่นปี 1989, เจ็ตสกี 1 ลำ และคอมพิวเตอร์ รวมทั้งจะช่วยแนะนำเพื่อนฝูง กับช่วยให้ไปทดลองงานในตำแหน่งเดิมของเขาด้วย
          ในที่สุดแพกเกจนี้ก็มีคนประมูลซื้อไปในราคา 380,000 ดอลลาร์ หรือ 13 ล้านบาท ซึ่งอัชเชอร์ยอมรับในเวลาต่อมาว่า เขาคาดไว้ว่าจะขายได้เงินมากกว่านี้ แต่ก็ยังได้เงินมากพอจะใช้สร้างชีวิตใหม่ คือเที่ยวไปทั่วโลกเพื่อทำตามเป้าหมายชีวิตที่ตั้งไว้ 100 อย่างให้ บรรลุภายในเวลา 100 สัปดาห์ ซึ่งเขามีแผนจะเขียนลงในบล็อคออนไลน์ต่อไป
http://static.truelife.com/blog/files/members/17/81916/125008/9f60f3785.jpg

อันดับที่ 9 : ฮือฮาพบบิ๊กฟู้ท สุดท้ายก็ไม่ใช่ (Bigfoot Lives! No, Really!)
          ริค ไดเยอร์ กับ แมต วิตตัน สองนักล่า "บิ๊ก ฟู้ท" มือสมัครเล่น สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดแถลงข่าว "บิ๊ก ฟู้ท" ในป่าทางเหนือของรัฐจอร์เจีย พร้อมเปิดเผยภาพของซาก บิ๊ก ฟู้ท ที่มีขนรุงรัง และเนื้อตัวเปื้อนเลือด แต่ในที่สุดนักวิจัยก็เปิดเผยว่า เป็นแค่ชุดกอริลล่ายาง ที่ข้างในยัดไส้ด้วยซากสัตว์ ไม่กี่วันต่อมา ไดเยอร์กับวิตตันซึ่งถูกไล่ออกจากงานตำรวจเพราะเรื่องหลอกลวงนี้ ทั้งคู่ออกมารับสารภาพว่าแค่ตั้งใจให้เป็นเรื่องตลก
http://static.truelife.com/blog/files/members/17/81916/125009/9d90031624e.jpg

อันดับที่ 8 : ไอศครีม...นมมนุษย์? (Breast Milk Ice Cream)

          กลุ่มสิทธิสัตว์ People for The Ethical Treatment of Animals หรือ PETA เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงบริษัทไอศครีมBen&Jerry's เรียกร้องให้บริษัทเปลี่ยนจากการใช้นมวัวผลิตไอติม โดยเปลี่ยนมาเป็นใช้นมคน พร้อมระบุว่าจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อลูกค้า และต่อวัว PETA ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า นมวัวทำให้คนเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และภูมิแพ้ ฯลฯ นมแม่นั้นดีกว่ามาก
          และก็เป็นไปตามที่คาด ผู้บริหารของ Ben&Jerry's ไม่ตอบรับข้อเสนอนี้ รวมถึงพนักงานของบริษัทบอกว่าน่าขยะแขยง ขณะที่ อิงกริด นิวเคิร์ค ประธาน PETA บอกนิตยสาร TIME ในเวลาต่อมาว่า แผนรณรงค์นมแม่ของกลุ่มตนเป็นกลยุทธ เพื่อดึงความสนใจของสาธารณชนไปยังลูก วัวที่ถูกพรากจากแม่หลังจากเกิดได้ไม่นาน เพื่อใช้เนื้อลูกวัวปรุงอาหาร ขณะที่นมของแม่วัวถูกรีดมาให้ลูกคนกับคนกิน
http://static.truelife.com/blog/files/members/17/81916/125010/ae69f.jpg

อันดับที่ 7 : ปลาบำบัด (Fish Pedicures)
          ผู้หญิงหลายคนพร้อมทำทุกอย่าง เพื่อความงามของเท้า รวมทั้งใช้เท้าให้อาหารปลา ในบางประเทศของเอเชีย นิยมมานานแล้วที่จะแช่เท้าในน้ำ เพื่อให้ปลามารุมตอดกินผิวหนังที่ด้านเพื่อให้เท้านุ่ม แต่วิธีนี้ฮิตมากในสหรัฐฯ หลังจาก จอห์น โฮ เจ้าของร้านทำผมในเวอร์จิเนีย ประกาศให้บริหารด้านนี้แก่ลูกค้า 5,000 คนในช่วง 4 เดือน ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีบรรดาช่างเสริมสวยลอกเลียนแบบกันเป็นแถว มีการสั่งซื้อปลานับพันๆ ตัว มาช่วยทำให้ผิวหนังที่เท้าอ่อนนุ่มขึ้น ก่อนทำเล็บตามปกติโดยช่าง ทำเล็บ แต่ช่างเสริมสวยในรัฐเท็กซัสกับวอชิงตันโชคไม่ดี เพราะสองรัฐนี้รีบออกคำสั่งห้ามใช้วิธีนี้ด้วยเหตุผล ด้านสุขอนามัย หลังจากมีข่าวนี้ ไทยเราก็มีกิจการแบบนี้จำนวนไม่น้อย
http://static.truelife.com/blog/files/members/17/81916/125011/9d0164b69a.jpg

อันดับที่ 6 : หย่าเพราะสามีมีชู้ในโลกเสมือนจริง (Second Life Divorce)
          ตอนที่สาวอังกฤษชื่อ เอมี่ เทเลอร์ จับได้ว่าสามีนอกใจกับโสเภณี เธอทำแบบที่ผู้หญิงหลายคนทำ คือฟ้องหย่า แต่ที่แปลกกว่าชาวบ้าน คือ สามีนอกใจเธอในโลกเสมือนจริง ด้วยการเล่นเกมส์ชื่อ Second Life และโสเภณีคนที่ว่า อันที่จริงก็คือแม่ม่ายลูกสองจากรัฐอาร์คันซอนั่นเอง เอมี่ซึ่งแต่งงานกับสามีเมื่อปี 2548 และสามีได้แต่งงานอีกครั้งอย่างหรูหราในเกมส์ Second Life เอมี่มองว่าการที่เขานอกใจเธอในเกมส์ก็เท่ากับนอกใจในชีวิตจริง และใช้เป็นข้ออ้างขอหย่าจริงๆ ในศาลอังกฤษ หลังจากหย่ากันเอมี่ได้พบรักครั้งใหม่ในเว็บไซต์ ส่วนอดีตสามีของเธอกับแม่ม่ายลูกสอง ก็ได้หมั้นหมายกันนอกเกมส์แล้ว
http://static.truelife.com/blog/files/members/17/81916/125012/586feac07c.jpg

อันดับที่ 5 : ฝาแฝดในท้องเด็กผู้หญิง (She Ain't Heavy, She's My Partially Absorbed Embryonic Twin)
          เด็กหญิงในประเทศกรีก ไปหาหมอเพราะมีกาการปวดท้อง แต่สิ่งที่พบ และทำให้คุณหมอต่างแปลกใจ คือพบว่าท้องของเธอบวมโต เพราะมีฝาแฝดที่เกิดจากไข่ใบเดียวกันอยู่ในท้อง และได้ทำการผ่าออกได้โดยปลอดภัย โดยอาการนี้ เรียกว่า “Vanishing Twin Syndrome" (โรคแฝดที่สูญหาย) ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบอกว่าพบบ่อย ถึง 1 ต่อ 8 ของการตั้งท้อง แต่ส่วนใหญ่แฝดจะซ่อนอยู่ในตัวคู่แฝด หรือในตัวมารดาชนิดมองไม่เห็น สำหรับกรณีนี้ ตัวอ่อนขนาด 2 นิ้ว ในท้องของเด็กหญิงไม่มีสมอง แต่มีผมและตา
http://static.truelife.com/blog/files/members/17/81916/125013/69aae27c648.jpg

อันดับที่ 4 : แม่ฉลามเวอร์จิ้น (Virgin Shark Mother)
          ฉลามหลังดำแอคแลนติค ตัวเมียชื่อ Tidbit ได้เสียชีวิตในอควอเลี่ยม ที่หาดเวอร์จิเนีย รัฐเวอร์จิเนีย เพราะปัญหาซับซ้อนจากการตั้งท้องเมื่อ เดือนตุลาคม เป็นการตายทั้งกลม ซึ่งจากการตรวจสอบซากของลูกปลาในท้องของฉลามสาว พบว่าเป็นการตั้งท้องโดยไม่ต้องอาศัยฉลามเพศผู้ หรือการมีปฏิสนธิโดยไม่มีเพศสัมพันธ์ (The asexual reproduction)
          โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สองที่มีการบันทึกเรื่องความลับนี้ของฉลาม ที่ก่อนหน้านี้ เคยพบในรัฐเนบราสก้าว่าฉลามหัวค้อนตัวเมียตัวหนึ่งตั้งท้อง โดยไม่มีเพศผู้ แต่ตอนนั้นคิดกันว่าเป็นเรื่องฟลุ๊ค ข่าวระบุว่า Tidbit มีลำตัวยาว 5 ฟุต และลูกในท้องของเธอตัวยาว 10 นิ้ว และพัฒนาการ เกือบจะครบสมบูรณ์แล้ว
http://static.truelife.com/blog/files/members/17/81916/125014/89d0a5c.jpg

อันดับที่ 3 : เท้าปริศนาทิ้งเกลื่อนนครแวนคูเวอร์ (Strange Things A foot in Vancouver)
          กรณีแปลกประหลาดที่ทำให้เจ้าหน้าที่สอบสวนในแคนาดา งงงวย และทำให้ไม่มีใครกล้าไปเดินเล่นตามชายหาด คือ ได้พบเท้าของมนุษย์อย่างน้อย 6 ข้างตามแนวชายฝั่งแคว้นบริติช โคลัมเบียของแคนาดา ที่ติดกับสหรัฐฯ โดยเท้าข้างแรกที่พบบนชายหาด ในรัฐวอชิงตันเมื่อเดือนสิงหาคม เป็นรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อสีดำ และข้างล่าสุดพบเมื่อเดือนพฤศจิกายนในปีเดียวกัน เป็นเท้าในรองเท้ากีฬา Balance รุ่นใหม่ ถูกพบใกล้ปากแม่น้ำสายหนึ่งทางใต้ของนครแวนคูเวอร์ เท้าข้างหนึ่งที่พบในแคนาดาเป็นของชายคนหนึ่งที่หายตัวไปหลายเดือนแล้ว ส่วนอีกสองข้างเป็นของคนละคนกัน ยังไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์บอกว่า เป็นไปตามธรรมชาติที่เท้าอาจหลุดขาดออกจากศพที่ลอยอยู่ในทะเล แต่ไม่อาจอธิบายได้ว่าทำไมถึงมีเท้าหลายข้างนักที่ลอยไปเกยฝั่งที่ช่องแคบ ระหว่างแคว้นบริติชโคลัมเบียและเกาะแวนคูเวอร์
http://static.truelife.com/blog/files/members/17/81916/125015/5bf02f0.jpg
อันดับที่ 2 : บ้องกัญชากะโหลกคน (Night of the Corpse Skull Bong)
          วัยรุ่นรัฐเท็กซัสคนหนึ่งถูก ตำรวจจับข้อหาย่องเบา และในระหว่างให้ปากคำกับตำรวจ เขาก็หลุดปากไปว่าเขากับเพื่อนอีก 2 คน เคยเข้าไป ลักทรัพย์ที่หลุมศพแห่งหนึ่ง โดยใช้อุปกรณ์ทำสวนทุบกระโหลกศพเจ้าของหลุม ก่อนจะนำกระโหลกมาทำเป็นบ้องสูบกัญชา ในตอนแรกตำรวจไม่เชื่อคำให้การนี้ แต่เมื่อไปถึงบ้านของเพื่อนหนึ่งในสองคนที่เขาอ้าง เพื่อสอบปากคำเรื่องนี้ เพื่อนของเขาถึงกับคายอาหารกลับลงไปในจานข้าว ในที่สุดของพบว่า เจ้าของกระโหลกเป็นเด็กชายวัย 11 ขวบที่ตายมาตั้งแต่เมื่อ 87 ปีก่อน วัยรุ่นเจ้าของรับ สารภาพเลยติดคุก 8 เดือน ข้อหาล่วงละเมิดศพคนตาย
http://static.truelife.com/blog/files/members/17/81916/125006/01a89.jpg
http://static.truelife.com/blog/files/members/17/81916/125017/847a8dad4b.jpg
http://static.truelife.com/blog/files/members/17/81916/125018/fa27ff53e.jpg

อันดับที่ 1 : ผู้ชายท้อง (The Pregnant Man)
          ข่าวที่สร้างความฮือฮาไปทั่วโลก นั่นคือข่าวการตั้งท้องของ Thomas Beatie ผู้เกิดเป็นผู้หญิงแถมเคยเป็นนางงาม แต่อยากเป็นผู้ชาย และได้เข้าผ่านกระบวนการเพื่อเป็นผู้ชาย ซึ่งรวมทั้งการเข้ารับการบำบัดด้วยฮอร์โมน เทสโทสเตอร์โลน กับกระบวนการ สร้างกล้ามเนื้อหน้าอกให้ดูสมชาย แต่เขายังเก็บระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิงไว้ ภาพสมัยตอนเป็นนางงาม Beatie ตัดสินใจให้ตั้งท้องเสียเอง เพราะ Nancy ภรรยาของเขาเป็นโรคทางสูตินารีแบบรุนแรงไม่สามารถตั้งท้องเองได้          และปรากฏว่าระบบสืบพันธุ์ เพศหญิงของ Beatie ยังใช้งานได้ดี เมื่อเขาเข้ารับการผสมเทียมโดยใช้สเปิร์มที่มีผู้บริจาค เขาก็สามารถให้กำเนิดลูกที่มีสุขภาพสมบูรณ์ หลังจากนั้นเขาก็ให้กำเนิดลูกสาวสุขภาพดีชื่อ Susan Juliette เขารับสารภาพด้วยว่า รู้สึกช็อคที่ผู้คนให้ความสนใจกันอย่างมากมาย เรื่องที่เขาท้อง แต่เขาก็ได้เขียน บทความเกี่ยวกับการตั้งท้อง ได้ไปปรากฏตัวในรายการทีวีของโอปร่า วินฟรีห์ และเขียนหนังสือเกี่ยวกับประสบการณ์นี้