วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2555


10 อันดับพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดของโลก 2012
 
สื่อต่างชาติเผยแพร่ 10 อันดับ " พระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดของโลก จะมีใครบ้าง ทีมงาน topthailand ขอเสนอ "10 อันดับพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดของโลก 2012"
1พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มหาราช
อันดับที่ 1 ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มหาราช พระองค์ทรงเป็นพระมหามหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดของโลก นั้นคือ 66 ปี และทีมงาน toptenthailand ทุกคนขอให้พระองค์ทรงอยู่เป็นร่มโพธิ์ ร่มไทร ของปวงชนชาวไทยตราบนานเท่านาน ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน
 
 
 
2ควีนอลิซาเบธที่ 2
อันดับที่ 2 ได้แก่ ควีนอลิซาเบธที่ 2 ครองราชย์มาแล้ว 60 ปี เพิ่งจะผ่านมาไม่นานสำหรับพระราชพิธีเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และถือว่าเป็นกิจกรรมขบวนเรือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมหานครลอนดอน มีเรือต่างๆเข้าร่วมในขบวน 1,000 ลำ ไม่ว่าจะเป็นเรือยนต์ เรือลากจูง เรือดันเคิร์กที่เคยอพยพทหารอังกฤษจากยุโรป ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็อยู่ในขบวนด้วย
 
 
 
3สุลต่านฮัจยี ฮาสซานาล โบลเกียห์ สุลต่านแห่งบรูไนพระชนมพรรษา
อันดับที่ 3 ได้แก่ สุลต่านฮัจยี ฮาสซานาล โบลเกียห์ สุลต่านแห่งบรูไนพระชนมพรรษา ครองราชย์มาแล้ว 44 ปี มีทรัพย์สิน 22 พันล้านดอลลาร์ ขึ้นครองราชย์เป็นสุลต่านองค์ที่ 29 แห่งราชวงศ์บรูไนเมื่อ 40 ปีที่ผ่านมา ทรงรับมรดกตกทอดจากราชวงศ์ที่มีอายุยืนนานมา 600 ปี ทรงเป็นนายกรัฐมนตรี, รมว.กลาโหม, รมว.คลัง และผู้นำศาสนาด้วยพระองค์เอง ประเทศนี้มีน้ำมันและแหล่งแก๊สธรรมชาติ, สะสมเพชรนิลจินดาระดับเยี่ยม พระองค์ทรงเป็นนักกีฬาโปโลด้วย
 
 
 
4สุลต่านคาบูส์ บิน ซาอิด แห่งโอมาน
อันดับที่ 4 ได้แก่ สุลต่านคาบูส์ บิน ซาอิด แห่งโอมาน ครองราชย์มาแล้ว 41 ปี
 
 
 
5สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก
อันดับที่ 5 ได้แก่ สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก ครองราชย์มาแล้ว 40 ปี สมเด็จพระราชินีนาถฯ มิได้ทรงมีฐานะเป็นผู้สืบราชบัลลังก์โดยกำเนิด เนื่องจากกฎมณเฑียรบาลในสมัยนั้นมิได้อนุญาตให้พระราชธิดาขึ้นครองราชย์ได้ ซึ่งถ้าเป็นไปตามกฎหมายเดิมแล้ว รัชทายาทลำดับแรกจนกระทั่งได้มีการแก้ไขกฎมนเทียรบาลใหม่ในวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 1953 ซึ่งอนุญาตให้พระราชธิดาขึ้นครองราชย์ได้ เจ้าหญิงมาเกรเธอในขณะนั้นจึงทรงมีฐานะเป็น Tronfølgeren หรือผู้สืบราชบัลลังก์ เจ้าหญิงมาเกรเธอทรงศึกษาระดับอุดมศึกษาทางด้านโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ระหว่างปีค.ศ. 1960-1961 ทางด้านรัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยอาร์ฮุสระหว่างปี ค.ศ.1961-1962 และที่มหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ในปีค.ศ. 1963 ทางด้านเศรษฐศาสตร์ที่โรงเรียนเศรษฐศาสตร์ ณ กรุงลอนดอนในปี ค.ศ. 1965 เจ้าหญิงมาเกรเธอทรงอภิเษกสมรสกับ อ็องรี-มารี-ฌ็อง อ็องดร์ เดอ ลาบอร์ด เดอ มงต์เปอซา (Henri-Marie-Jean André greve de Laborde de Monpezat) นักการทูตชาวฝรั่งเศส ซึ่งภายหลังได้สถาปนาเป็นเจ้าชายเฮนริกแห่งเดนมาร์ก เนื่องจากเป็นพระสวามีในมกุฎราชกุมารีแห่งเดนมาร์ก ทั้งสองพระราชองค์มีพระราชโอรส 2 พระองค์ คือเจ้าชายเฟรเดอริก มกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์ก มกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์กองค์ปัจจุบัน และเจ้าชายโจอาคิมแห่งเดนมาร์ก เจ้าหญิงมาเกรเธอเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นสมเด็จพระราชินีนาถมาเกรเธที่ 2 แห่งราชอาณาจักรเดนมาร์ก เมื่อวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 1972 ภายหลังการสวรรคตของสมเด็จพระราชบิดา
 
 
 
6สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ
อันดับที่ 6 ได้แก่ สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ ครองราชย์มาแล้ว 38 ปี ทรงเป็นประมุของค์ปัจจุบันแห่งราชอาณาจักรสวีเดน เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1946 ทรงเป็นพระโอรสในเจ้าชายกุสตาฟ อดอล์ฟ มกุฏราชกุมารในขณะนั้นและเจ้าหญิงซิบิลลาแห่งแซ็กซ์-โคบูร์กและก็อตธา เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งสวีเดนเมื่อวันที่ 15 กันยายน ค.ศ. 1973
 
 
 
7สมเด็จพระราชาธิบดีควน การ์โลสที่ 1 แห่งสเปน
อันดับที่ 7 ได้แก่ สมเด็จพระราชาธิบดีควน การ์โลสที่ 1 แห่งสเปน ครองราชย์มาแล้ว 36 ปี เป็นพระมหากษัตริย์สเปน เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2481 (ค.ศ. 1938) ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี และได้เสร็จขึ้นครองราชสมบัติเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518 (ค.ศ. 1975) ตามกฎหมายที่นายพลฟรันซิสโก ฟรังโกได้ตราขึ้นไว้ สมเด็จพระราชาธิบดีฆวน คาร์ลอสที่ 1 ทรงเป็นหนึ่งในราชสันตติวงศ์ในสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร (ราชวงศ์ฮาโนเวอร์) พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส (ราชวงศ์บูร์บง) จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (ราชวงศ์ฮับส์บูร์ก) และกษัตริย์ราชวงศ์ซาวอยแห่งอิตาลีอีกด้วย สมเด็จพระราชาธิบดีฆวน คาร์ลอสที่ 1 ได้อภิเษกสมรสกับสมเด็จพระราชินีโซเฟีย
 
 
 
8สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์แห่งเนเธอร์แลนด์
อันดับที่ 8 ได้แก่ สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์แห่งเนเธอร์แลนด์ ครองราชย์มาแล้ว 32 ปี เบียทริกซ์ วิลเฮลมินา อาร์มการ์ด เจ้าหญิงแห่งเนเธอร์แลนด์ เจ้าหญิงแห่งออเรนจ์-นัสเซา เจ้าหญิงแห่งลิปเปอ-บีสเตอร์เฟลด์ พระราชสมภพ 31 มกราคม พ.ศ. 2481) ทรงเสวยราชสมบัติสืบต่อเป็นสมเด็จพระราชินีนาถแห่งราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2523
 
 
 
9กษัตริย์มัสวาติที่ 2 แห่งประเทศสวาซิ แลนด์
อันดับที่ 9 ได้แก่ กษัตริย์มัสวาติที่ 2 แห่งประเทศสวาซิ แลนด์ ครองราชย์มาแล้ว 26 ปี ทรงมีพระชนมพรรษา 39 พรรษา พระองค์ถือครองทรัพย์สมบัติประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ และเป็นที่ทราบกันว่าทุกปีพระองค์จะทรงเลือกพระมเหสีองค์ใหม่ เช่นเมื่อปีที่แล้วก็ทรงให้สตรี 2 หมื่นคนที่ยังเป็นสาวบริสุทธิ์มายืนเรียงแถวเพื่อทรงเลือก แต่โดยรวมแล้ว พระองค์มีมเหสี 13 องค์ แต่ละองค์จะสร้างวังให้อยู่ ไม่ปะปนกัน ส่วนกษัตริย์ที่ยังโสดคือเจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2 แห่งโมนาโก พระองค์ทรงได้รับฉายาว่า "เจ้าชายเพลย์บอย" ทรงครองอาณาจักรโมนาโก ซึ่งมีพื้นที่ขนาดเท่าสวนสาธารณะเซ็นทรัลปาร์ก ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ทรงสืบราชสมบัติต่อจากพระบิดาที่สวรรคตในปี 2005
 
 
 
10สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ
อันดับที่ 10 ได้แก่ สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ ครองราชย์มาแล้ว 23 ปี เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ปัจจุบันของประเทศญี่ปุ่น และเป็นจักรพรรดิพระองค์ที่ 125 ตั้งแต่โบราณกาลของญี่ปุ่น ในปัจจุบันนี้พระองค์เป็นพระประมุขเพียงพระองค์เดียวในโลกที่ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระจักรพรรดิ ในญี่ปุ่น การเอ่ยถึงพระจักรพรรดิ จะเรียกพระนามของพระองค์โดยตรงไม่ได้ เช่นเดียวกับในประเทศไทย แต่จะเอ่ยถึงพระองค์ว่า เทนโน เฮกะ หรือ สมเด็จพระจักรพรรดิ และรัชสมัยของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตจะเรียกว่า ยุคเฮเซ หลังจากที่สิ้นยุคของพระองค์แล้ว เราก็อาจจะขนานพระนามพระองค์ว่า จักรพรรดิเฮเซ
 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น