วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เด็กดีดอทคอม :: สอบสัมภาษณ์แอดมิชชั่นยังไงให้ "ผ่าน" เรื่องจริงจาก 4 รุ่นพี่
            วัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D ทุกคน หลังจากที่ประกาศผลกันไปแล้วนะคะสำหรับแอดมิชชั่นปี 2556 ก็ถึงคราวขั้นตอนต่อไปที่จะต้องเผชิญเป็นศึกสุดท้ายคือ "การสัมภาษณ์" นั่นเองค่ะ การสัมภาษณ์ในรอบแอดมิชชั่นบางคนก็ว่าชิวๆ บางคนก็ว่าแอบโหดนิดนึง เพราะฉะนั้นเราต้องตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาทค่ะ พี่แป้ง มีประสบการณ์ตรงจากรุ่นพี่มาฝากค่ะว่าในรอบสัมภาษณ์เตรียมตัวกันอย่างไร และเจอคำถามอะไรกันบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ
เด็กดีดอทคอม :: สอบสัมภาษณ์แอดมิชชั่นยังไงให้ "ผ่าน" เรื่องจริงจาก 4 รุ่นพี่
พี่เคนตะ
สังคมศาสตร์ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา
ม.เกษตรศาสตร์

Dek-D : แนะนำตัวเองก่อนเลยค่ะ
พี่เคนตะ : สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับน้องๆ ทุกคนที่แอดฯติดแล้วนะครับ ส่วนใครที่แอดฯ ไม่ติดก็อย่าเพิ่งท้อนะครับ ยังมีรับตรงหลังแอดฯ และมหาลัยเอกชนดีๆ อีกมากมายครับ พี่ชื่อนายกษิดิศ ปกรณ์ชัย หรือ พี่เคนตะครับ สอบติดที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ สาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาครับ

Dek-D : ตอนประกาศผลว่าติดที่นี่ รู้สึกอย่างไรบ้าง เป็นไปตามที่ฝันไว้หรือเปล่าคะ?
พี่เคนตะ : ตอนที่รู้ว่าติดที่นี่ก็ดีใจมากๆ เลยครับ เพราะได้เรียนมหาลัยที่เราคาดหวังไว้ ถามว่าเป็นไปตามที่ฝันไว้มั้ย ก็เรียกว่าเป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ 70% ครับ ส่วนที่ 30% ที่เหลือเป็นเพราะว่าจริงๆ แล้วพี่เลือกอันดับ 1 เป็นคณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาภาษาจีน ม.เกษตรศาสตร์เช่นกันครับ แต่ว่าไม่ติด และก็มาติดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาครับ

          ส่วนตัวแล้วพี่อยากเรียนภาษาจีนอยู่แล้วครับ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาก็มีให้เราได้เลือกกลุ่มวิชาภาษาและวัฒนธรรมตอนขึ้นชั้นปีที่ 2 ด้วยครับ ซึ่งพี่ก็ได้เลือกกลุ่มวิชาภาษาจีนและวัฒนธรรมจีนไปเรียบร้อยก่อนจบชั้นปีที่ 1 แล้วครับ ก็แม้การเรียนภาษาจีนของสาขานี้จะไม่หนักเท่าของมนุษยศาสตร์ แต่ก็ได้เรียนในสิ่งที่เราชอบเหมือนกันครับ และพี่ก็คิดไว้แล้วว่าจะไปเรียนภาษาจีนเพิ่มเติมข้างนอกด้วยครับ ส่วนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ก็ถือว่าโอเคเลยครับ เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ สังคมเพื่อน รุ่นพี่รุ่นน้อง ดีมากเลยครับ เดินทางไปกลับก็สะดวกด้วยครับ


Dek-D : ตอนก่อนจะถึงวันสัมภาษณ์เตรียมตัวอย่างไรบ้างคะ?
พี่เคนตะ : ก็เตรียม portfolio ไว้อย่างดีเลยครับ ของพี่สนใจในภาษาจีนอยู่แล้วพี่เลยทำพอร์ตเป็นรูปแบบ 3 ภาษาเลยครับก็คือ ไทย อังกฤษ จีน เป็นการพรีเซ็นท์ตัวเราไปเลยว่า เราสนใจในภาษาจีนนะ เพราะจะได้มีผลดีต่อเราตอนเลือกภาษาสำหรับชั้นปีที่ 2 ด้วยครับ นอกจากนั้นก็เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมครับ ไปด้วยใจ ตอบด้วยใจครับ อ้ออ!! เครื่องแต่งกายก็สำคัญนะครับ แต่งกายให้ถูกระเบียบนักเรียนเรียบร้อยไว้ก่อนก็จะดูมีราศีออร่ามากๆเลยนะ

Dek-D : แล้วตอนสอบสัมภาษณ์จริงๆ เป็นอย่างไรบ้าง อยากให้เล่าบรรยากาศค่ะ
พี่เคนตะ : ไปถึงเลยก็เจอรุ่นพี่ของภาควิชาให้การต้อนรับเป็นอย่างดีเลยครับ ชวนน้องคุยนั่นคุยนี่ แนะนำน้องว่าสาขานี้มีอะไรดีบ้าง เรียนแล้วเป็นยังไง บลาๆๆ มากมายเลยครับ พอถึงตอนที่เข้าไปในห้องสัมภาษณ์ก็ตื่นเต้นมากเลยครับ มือไม้เย็นไปหมด กลัวตอบผิดๆถูกๆ แต่ก็สู้ครับ มาด้วยใจ ตอบด้วยใจครับ

          พี่ค่อนข้างโชคดีเจออาจารย์สัมภาษณ์ไม่โหด เป็นอาจารย์ผู้ชายครับหนุ่มๆอายุประมาณ 30 ต้นๆ ใจดีมากครับ ชวนพี่คุย คุยนอกเรื่องเยอะมากเลยครับ กลายเป็นว่าจากที่คิดไว้ว่าอาจารย์จะต้องถามแบบวิชาการมากแน่ๆ เป็นผิดคาดเลย จนหายตื่นเต้นเลยครับ กลายเป็นว่านั่งเม้าท์กับอาจารย์ซะงั้น 5555 แต่คำถามที่จำได้ที่ถามจริงจังก็จะมี จบไปอยากทำงานอะไร รู้หรือไม่ว่าสาขานี้เรียนเกี่ยวกับอะไร ประมาณนี้ครับ พี่ก็ตอบไปเท่าที่พี่รู้ทั้งหมดเลยครับ


Dek-D : อยากให้ฝากเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ถึงน้องๆ ที่กำลังเตรียมตัวสัมภาษณ์ค่ะ
พี่เคนตะ : ครับ สำหรับเทคนิคของพี่นะครับ พี่เชื่อว่าน้องๆ หลายคนคงจะต้องเจอกับอาการตื่นเต้นมากๆ ตอนก่อนสัมภาษณ์ พี่ขอแนะนำว่าให้น้องๆทำใจให้สบายครับ หายใจเข้าออกลึกๆ ช่วยได้นะเออ จะทำให้จิตใจของเราสงบขึ้นด้วยครับ อาจารย์เขาถามอะไรก็ตอบอย่างนั้นเลยครับตอบให้ตรงคำถามเป็นก็พอ แล้วก็ลงท้ายด้วย ครับ/ค่ะ เสมอนะ

           ตอนเจอหน้าอาจารย์ก็อย่าลืมยกมือไหว้สวัสดีด้วยนะครับ ตอนสัมภาษณ์เสร็จก็อย่าลืมยกมือไหว้ขอบคุณด้วยนะ หลังจากนั้นตอนออกจากห้องสัมภาษณ์พี่เชื่อว่าความตื่นเต้นที่มีทั้งหมดคงหายเป็นปลิดทิ้งเหมือนยกภูเขาออกจากอก สุดท้ายนี้พี่ขอให้น้องๆทุกคนโชคดีกับการสอบสัมภาษณ์นะ สู้ๆครับ
เด็กดีดอทคอม :: สอบสัมภาษณ์แอดมิชชั่นยังไงให้ "ผ่าน" เรื่องจริงจาก 4 รุ่นพี่
พี่น้ำใส 
วิศวกรรมโยธา จุฬาฯ

Dek-D : แนะนำตัวเองก่อนเลย ชื่อ สกุล ชื่อเล่น และสอบติดที่ไหนคะ?
พี่น้ำใส : ฑภิสรา พุทธาคุณเจริญ (น้ำใส) ค่ะ ตอนนี้อยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมโยธา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยค่ะ

Dek-D : ตอนประกาศผลว่าติดที่นี่ รู้สึกอย่างไรบ้าง เป็นไปตามที่ฝันไว้หรือเปล่าคะ?
พี่น้ำใส : ดีใจและสับสนมากด้วย ตอนแรกคือมุ่งเข้าหมออย่างเดียวเลย แต่ไปพลาดความถนัดทางแพทย์ซะล่มจม (รับตรงก็ไม่เอา ตอนนั้นนางเอกมาก ไม่กันที่คนอื่นค่าา เลยไม่มีที่เรียนเลย 555 ตอนนี้ขำตอนนั้นเครียดนะ >_<) แล้วโดนไซโคให้เลือกเรียนทันตะฯค่ะ สองอันดับแรกของแอดฯกลางก็เลยเป็นทันตะฯ

         แล้วไปๆ มาๆ ค้นพบตัวเอง ว่า
มันไม่ใช่อ่ะ ซวยแล้ว ซวยมากๆ ถ้าติดนี่ สติแตก T_T แต่โชคดีสุดๆที่คะแนนขึ้นเลยได้วิศวะ จุฬาฯ !!! จำได้ว่ากอดกันกลมดิกกับคุณแม่เลยค่ะ ส่วนเรื่องตามที่ฝันไว้ไหม ก็เคยพูดไว้สมัยประถมนะคะ ว่าอยากเข้าหมอไม่ก็วิศวะ จุฬาฯ เป็นความฝันที่ลืมไปแล้วด้วยซ้ำนะเนี่ย

Dek-D : ตอนก่อนจะถึงวันสัมภาษณ์เตรียมตัวอย่างไรบ้างคะ?
พี่น้ำใส : ไม่ทำอะไรพิเศษเลยนะคะ แต่ถ้าน้องเครียดก็ ไปสปา นวดหน้านวดตัว ผ่อนคลาย ไม่ก็ล่องแม่น้ำเจ้าพระยา ไหว้พระเก้าวัดและหาของกินก็น่าจะดี มันไม่ได้เครียดขนาดนั้นจริงๆนะ เขาแค่ดูว่าเราไม่ได้ เอ่อ.. บ้า? เท่านั้นเอง แล้วอย่าเพิ่งไปทำผมสีแรงๆ หรือ สัก เจาะ อะไรที่ใหญ่ๆนะน้อง ^^;

Dek-D : แล้วตอนสอบสัมภาษณ์จริง ๆ เป็นอย่างไรบ้างคะ?
พี่น้ำใส : สัมภาษณ์ที่หอประชุมคณะวิศวะ จุฬาฯ ค่ะ คนที่รอนั่งเก้าอี้ไป ส่วนที่สัมภาษณ์คือบนเวที จะมีโต๊ะเรียงๆ เพียบเลยค่ะ เป็นสิบโต๊ะสัมภาษณ์พร้อมกัน ระหว่างรอ เจอเพื่อนเตรียมฯเยอะอยู่ก็เลยนั่งคุยกัน ไม่เครียดเลยค่ะ 5555 พอถึงคิวเดินไปนั่งโต๊ะประจันหน้ากับอาจารย์(กรรมการ)สองท่าน จำได้ว่าท่านนึงใส่แว่นและกลมๆ ตี๋ๆ น่าร้ากกกก (อ่าว นางนี่?! 555)

         ท่ามกลางแสงไฟเหลืองนวลบนเวที และอาจารย์ก็โปรยยิ้มหล่อใส่ โรแมนติกมากค่ะ >///< "เอ่อ เกรดคุณน่าเกลียดที่สุดที่ผมเคยเห็นเลยนะ ตั้งแต่นั่งสัมภาษณ์มาเนี่ย เข้ามาเป็นฐานเลยนะคุณ จะไหวไหมครับ" โอเค อาจารย์แว่นคะ ... หนูโป้ง !! d(-*- ) แล้วไม่นึกว่า GAT PAT หนูจะเว่อร์มั่ง ถึงติดเข้ามานั่งจิ้มลิ้มอยู่ตรงเนี้ยค่าา -3- อยากจะตอบอาจารย์มากเลยว่า หนู 3.32 ว่าน่าเกลียด เดี๋ยวเจอยายคนถัดไป(สหายเตรียมอุดมฯ) 2.9 แล้วอาจารย์จะว่าไงน้อ 5555555 ก็ไถๆไปว่าแหม่~ ไหวค่ะ หนูขี้เล่น ไม่เครียดเรื่องเรียน ยิ้มเข้าไว้นะหนูๆ ความจริงพี่แจกพอตเจออาจารย์โหดเองแหละ เพื่อนพี่โดนแบบ บ้านอยู่ไหน บ้านทำอะไร เดินทางมาไง กินอะไรมา ... แป่ววว ปล่อยหอยขมด่วน !


Dek-D : อยากให้ฝากเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ถึงน้อง ๆ ที่กำลังเตรียมตัวสัมภาษณ์ค่ะ
พี่น้ำใส : อย่าเครียด!!! โดนว่าก็ยิ้ม โดนกัดก็ยิ้ม อดทนไว้ๆ แล้วค่อยไปปล่อยลมยางรถกรรมการ เย้ยย!! อ่อ อย่าลืม "ไหว้" สวัสดี ขอบคุณด้วย และ ตอบตามความจริงนะคะ โดนจับได้ว่าแถนี่ โอยย ไม่อยากจะคิด ถ้าเขาให้ทำโจทย์ก็อย่าสั่น ทำไปเถอะ แต่ถ้าสั่นไปแล้วก็ยอมรับไปซะว่า "แหงะ หนูตื่นเต้นจังค่ะ" ปล.ถ้าน้องเป็นนารีกำยำที่เข้าวิศวะ ทำหน้าสวยเข้าไว้ คณะเราขาดแคลน อาจารย์ก็เห็นใจเจ้าเอง 555 โชคดีนะคะ ^^
เด็กดีดอทคอม :: สอบสัมภาษณ์แอดมิชชั่นยังไงให้ "ผ่าน" เรื่องจริงจาก 4 รุ่นพี่
พี่ลูกพลับ 
สัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ

Dek-D : แนะนำตัวเองก่อนเลยจ้า
พี่ลูกพลับ : สวัสดีค่า ลูกพลับ วิภาวี เวชวงศ์วาน คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยค่ะ

Dek-D : ตอนประกาศผลว่าติดที่นี่ รู้สึกอย่างไรบ้าง เป็นไปตามที่ฝันไว้หรือเปล่าคะ?
พี่ลูกพลับ : ตอนประกาศผลความรู้สึกแรกคือ โล่งอก ค่ะ ที่ได้ติดในคณะที่คาดไว้ตอนเลือก 4 อันดับ แต่ก็แอบมีเสียใจเล็กๆอยู่เหมือนกัน ว่าสุดท้ายเราทำตามความฝันไม่สำเร็จ ทั้งๆที่รู้มาตั้งแต่ตอนเลือก 4 อันดับแล้ว แต่ก็อดคิดไม่ได้ ><

Dek-D : ตอนก่อนจะถึงวันสัมภาษณ์เตรียมตัวอย่างไรบ้างคะ?
พี่ลูกพลับ : ก่อนสัมภาษณ์ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยค่ะ ที่จะมีก็น่าจะแค่เรื่องเอกสารที่พี่เขาบอกให้เตรียมไปด้วยในวันสัมภาษณ์ เพราะได้ยินว่าสัมภาษณ์ของรอบแอดมิชชั่น ถ้าไม่ได้ไปก้าวร้าวใส่อาจารย์ หรือคุณสมบัติผิดจริงๆก็ไม่ต้องห่วงว่าจะตกสัมภาษณ์ค่ะ

           ช่วงก่อนสัมภาษณ์นี่ที่ทำหลักๆเลยคือนั่งคุยกับเพื่อนใหม่ค่ะ เพราะว่าที่จุฬาฯจะมีงาน CU First Date ทำให้เราได้เจอและรู้จักกับเพื่อนๆในคณะ พอจบงานก็แอดไลน์ แอดเฟสกัน เลยได้คุยกันเยอะเลย แต่นอกเหนือจากเรื่องเพื่อนก็น่าจะเป็นเรื่องความตื่นเต้นที่จะได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยมั้งคะ วันๆก็นั่งเปิดดูรูป ดูโน่นดูนี่ เพื่อนพลับบางคนก็รีบไปซื้อชุดกัน(ส่วนพลับไม่ได้ไปซื้อ เพราะได้ยินว่าที่คณะมีขาย) เรียกได้ว่า พอผลแอดออกนี่เห่อกันใหญ่เลย 555


Dek-D : แล้วตอนสอบสัมภาษณ์จริง ๆ เป็นอย่างไรบ้าง อยากให้เล่าบรรยากาศค่ะ
พี่ลูกพลับ : วันสัมภาษณ์ พอไปถึงพี่เขาก็จะให้ลงทะเบียนรับเอกสารไปกรอก โดยที่วันนี้จะให้ผู้ปกครองมาด้วย(เหมือนมอบตัวตามโรงเรียนเลย)ก็จะให้ผู้ปกครองเข้าไปฟังเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ ส่วนน้องใหม่ก็ไปนั่งรอสัมภาษณ์ ซึ่งระหว่างนั่งรอพี่ๆเขาก็มีกิจกรรมให้เล่น คุยนู่นคุยนี่กันเรื่อยๆ

          ตอนสัมภาษณ์อาจารย์เขาก็จะเรียกไป มีหลายห้องหลายโต๊ะ แต่ละโต๊ะอาจารย์ก็จะใจดีจะโหดแตกต่างกัน ตอนพลับเข้าไป ก็มีอาจารย์อยู่ประมาณ 3 ท่าน เข้าไปตอนแรกก็คุยแนะนำตัวกันค่ะ ว่าเป็นใครมาจากไหนยังไง เดินทางยังไง ทำไมถึงอยากเข้าคณะนี้ ก็คุยกันไปเรื่อยๆเหมือนคุยกับญาติผู้ใหญ่คนนึง มีคำถามนึงเกี่ยวกับสัตวแพทย์ที่พลับจำได้แม่นเลยคือ 
"กล้าฆ่าสัตว์ไหม?" พลับก็สะดุดไปนิดนึง อาจารย์ท่านก็พูดต่อ "เป็นสัตวแพทย์ นอกจากจะรักษาสัตว์แล้ว เราจะต้องสามารถฆ่ามันได้ด้วย อย่างเช่น ถ้าจะต้องฆ่าหนูสัก 10 ตัว เพื่อใช้ในการทดลองจะกล้าไหม"..."ถ้าฆ่าไก่ทั้งเล้า ฆ่าหมูทั้งเล้า เพราะมันเป็นโรคร้ายแรงหล่ะ(เช่น ไข้หวัดนก)"..."หรือฉีดยาให้หมาตาย เพราะเจ้าของขอให้ทำ หนูจะกล้าไหม..." ยิ่งฟังยิ่งแบบ เอิ่มมมมม!!! ทำไมโหดร้ายขนาดนี้ จากที่คุยกันมีความสุขอยู่ดีๆ พลับก็เลยตอบไปแบบแผ่วๆว่า "ถ้าจำเป็นต้องทำ ก็ต้องทำได้แหละค่ะ"

          พอออกมาคุยกับเพื่อนๆ คำถามนอกจะจากจะเป็นเกี่ยวกับเรื่องของตัวเราเองแล้ว เขาก็จะถามเกี่ยวกับวิชาชีพเนี่ยแหละค่ะ เพื่อจะดูว่า เรียนเป็นแบบนี้นะ ต้องทำแบบนี้นะ เราคิดเห็นยังไง จะทำยังไง เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องเตรียมตัวมากค่ะ ตอบตามความเป็นจริง แต่แค่ให้เป็นไปในทางบวกเยอะๆ รับรองไม่ตกสัมภาษณ์แน่นอน หลังจากสัมภาษณ์เสร็จ แต่ละคณะก็จะไม่เหมือนกันค่ะ บางคณะก็อาจจะคุยกันนิดหน่อยๆ ส่วนคณะพลับมีกิจกรรมให้ทำ ให้รู้จักเพื่อนๆ พี่ๆ กันทั้งวันเลย เรียกได้ว่าเป็นการต้อนรับน้องใหม่ที่อบอุ่นและสนุกมากๆเลยค่ะ ^^


Dek-D : อยากให้ฝากเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ถึงน้อง ๆ ที่กำลังเตรียมตัวสัมภาษณ์ค่ะ
พี่ลูกพลับ : สำหรับน้องๆที่กำลังจะไปสัมภาษณ์เป็นนิสิตนักศึกษาใหม่นะคะ ก่อนจะนอน ก็เตรียมเอกสาร เตรียมชุดนักเรียน(ที่อาจจะได้ใส่เป็นครั้งสุดท้าย T T) ให้เรียบร้อย แล้วก็ไปนอนค่ะ นอนเยอะๆ จะได้ไม่เผลอหลับและจะได้ไม่พลาดสิ่งดีๆที่พี่ๆเขาเตรียมไว้ให้ ดูให้ดีๆว่าจะเดินทางมายังไง ถ้าเอารถมาจะหาที่จอดได้ไหม รถจะติดหรือปล่าว เอาเป็นว่าไม่ต้องกังวลเรื่องสัมภาษณ์เลยค่ะ นอนให้หลับกินให้อิ่มมาเป็นพอ โชคดีค่ะ

พี่กร 
วารสารศาสตร์ฯ ม.ธรรมศาสตร์
เด็กดีดอทคอม :: สอบสัมภาษณ์แอดมิชชั่นยังไงให้ "ผ่าน" เรื่องจริงจาก 4 รุ่นพี่
Dek-D :
 แนะนำตัวเองก่อนเลยค่ะ
พี่กร : สวัสดีครับ กร พงศกร พลธีระเสถียร เด็กแอดมิชชั่นรุ่น 55 คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ครับ

Dek-D : ตอนประกาศผลว่าติดที่นี่ รู้สึกอย่างไรบ้าง เป็นไปตามที่ฝันไว้หรือเปล่าคะ?
พี่กร : ตอนที่ประกาศผลว่าติดสิ่งที่เราหวังเอาไว้ก็รู้สึกดีครับว่าสิ่งที่เราทำมาทั้งปีแล้วได้สิ่งที่หวังมันคุ้มค่าเหลือเกินครับ

Dek-D : ตอนก่อนจะถึงวันสัมภาษณ์เตรียมตัวอย่างไรบ้างคะ?
พี่กร : เรียกว่าไม่ได้เตรียมตัวเลย แค่เตรียมเอกสารต่างๆที่จะใช้ให้ครบก็พอครับ

Dek-D : แล้วตอนสอบสัมภาษณ์จริง ๆ เป็นอย่างไรบ้าง อยากให้เล่าบรรยากาศค่ะ
พี่กร : บรรยากาศในห้องสัมภาษณ์ที่ผมนั้นจะเป็นห้องใหญ่ มีคณะอาจารย์หลายๆท่านสัมภาษณ์นักศึกษา1คนต่อ1ท่าน ดำเนินการรวดเร็วมาก คำถามก็เรียบง่ายไม่ค่อยมีไรมากคับ ถามว่า ทำไมถึงเลือกคณะนี้ จบไปทำอะไร ดีใจไหม แล้วแต่คนอ่าคับ ของกรพอดีดูบอลมาวันก่อนเลยโดนถามเรื่องบอลพอดีเลยครับเลยคุยถูกคอ 5555

Dek-D : อยากให้ฝากเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ถึงน้อง ๆ ที่กำลังเตรียมตัวสัมภาษณ์ค่ะ
พี่กร : อยากจะฝากว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือ"เตรียมเอกสารให้ครบ"เท่านั้นพอครับ ถ้าขาดแล้วปัญหาจะตามมามากมาย

          ก่อนจะไป พี่แป้ง ก็ได้รวบรวมเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้น้อง ๆ นำไปใช้ตอนสัมภาษณ์ด้วยค่ะ รับรองเลยว่าสอบสัมภาษณ์ครั้งนี้
 "ผ่านชัวร์" จะมีเทคนิคอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
เด็กดีดอทคอม :: สอบสัมภาษณ์แอดมิชชั่นยังไงให้ "ผ่าน" เรื่องจริงจาก 4 รุ่นพี่

 >>10 คำถามที่เจอบ่อย
- ชื่อ สกุล เรียนจบจากที่ไหน? (ถามข้อมูลส่วนตัว)
         เป็นคำถามที่ถามข้อมูส่วนตัวทั่วไปค่ะ เราก็ตอบไปตาม Step ของเราเลยค่ะ เป็นคำถามเปิดที่ต้องการแสดงว่าเราเป็นคนลักษณะอย่างไร เสียงเบา เสียงดัง พูดจาชัดถ้อยชัดคำแค่ไหน มีความกล้าแสดงออกแค่ไหน ประมาณว่า First Impression เลยค่ะ เอาเป็นว่าตอบไปตามลักษณะของเราเลย ถ้าขี้อายก็กล้าหน่อยนะคะ วันนั้นวันเดียวพอ
- ทำไมถึงเลือกเรียนสายนี้ (คณะ/สาขานี้)?
         คำถามนี้จะเป็นอารมณ์แบบว่า อะไรคือสิ่งที่ทำให้เลือกการตอบก็ตอบได้หลายแบบค่ะ เช่น ชอบคณะนี้ อยากรู้อยากลอง หรือคิดว่าตัวเองเหมาะกับคณะนี้ ส่วนคำตอบที่ไม่ควรตอบเลยก็เช่น คะแนนน้อยเลยเลือกเข้ามา หรือพ่อแม่บังคับให้เรียน หรือไม่รู้จะเรียนอะไร จะทำให้ภาพลักษณ์ของเรากลายเป็นคนดูถูกสิ่งที่ตัวเองเลือกไปเลยค่ะ
- รู้จักคณะ/สาขานี้มากน้อยแค่ไหน?
        นี่เป็นคำถามที่ถามถึงการเตรียมตัวของเรา ช่วงเวลาที่เรารู้ว่าสอบติดจนถึงสัมภาษณ์เราควรที่จะเตรียมตัวศึกษาเกี่ยวกับคณะนั้น ๆ ค่ะว่าเรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง ถ้าเกิดน้องตอบไปว่า ไม่ทราบครับ/ค่ะ จะแสดงให้เห็นเลยว่าไม่ได้ใส่ใจกับคณะที่ตัวเองจะเรียนเลยทั้ง ๆ ที่เลือกมาแล้ว เพราะฉะนั้นเตรียมคำตอบสำหรับคำถามนี้ด้วยนะคะ
- ทำไมถึงเลือกเรียนที่นี่(สถาบัน)?
        การถามถึงสถาบันเป็นการถามประมาณว่าเราให้เกียรติสถาบันที่เราเลือกมากแค่ไหน เราไม่จำเป็นต้องยกยอสถาบันจนโอเวอร์เกินก็ได้ค่ะ มันจะเป็นการสร้างภาพเกินไปอาจจะตอบว่า เป็นสถาบันในฝัน หรือ ใกล้บ้านเดินทางสะดวก หรือมาอยู่กับญาติ หรือชอบบรรยากาศ ร่มรื่น อบอุ่น แบบนี้ก็ได้ค่ะ อย่าตอบว่าก็ไม่รู้จะเลือกที่ไหน หรือที่นี่คะแนนต่ำเชียวนะคะ ไม่ได้เรียนแน่ ๆ
- ที่บ้านประกอบอาชีพอะไร?
        ถ้าถามถึงที่บ้านนั้นอาจจะพ่วงด้วยคำถามที่ว่า จบไปจะใช้ความรู้ไปช่วยกิจการที่บ้านหรือไม่? เช่น สอบติดคณะเกษตร และที่บ้านมีอาชีพเกษตรกร ก็สามารถนำความรู้กลับไปช่วยที่บ้านและพัฒนาชุมชนได้ค่ะ อาจารย์ท่านจะมองดูวิสัยทัศน์ของเราว่ามองถึงอนาคตมากแค่ไหน แต่ถ้าไม่เกี่ยวก็ไม่เสียหายค่ะ อาจจะมีการถามถึงรายได้ครอบครัวและอาชีพต่อ(แบบว่าอยากรู้) 555+
- คิดว่าจะเรียนได้หรือไม่?
        อันนี้เป็นคำถามวัดกึ๋นกันไปเลยว่าเรามั่นใจในตัวเองได้มากแค่ไหน การตอบที่ดีคือไม่ควรมั่นใจมากไปและไม่ควรที่จะไม่มั่นใจเลย อาจจะตอบกลาง ๆ เช่น คิดว่าทำได้ครับ/ค่ะถ้าทำไม่ได้จริง ๆ ก็พร้อมที่จะพยายามเรียนให้สำเร็จ อย่าตอบแนวที่ว่า เรียนได้แน่นอนค่ะเก่งซะอย่าง หรือง่ายแค่นี้เอง หรือเรียนไม่ได้แน่ ๆ ไม่ใช่คำตอบที่ดีเลยนะคะ
- วางแผนไว้หรือเปล่าว่าจบไปจะทำงานเกี่ยวกับอะไร?
        การถามถึงอนาคต อาจารย์ที่ปรึกษาจะประเมินว่าเราสามารถเรียนไปและทำงานที่คาดการณ์ไวในอนาคตได้หรือไม่ พร้อมทั้งดูว่าเรามีการวางแผนอนาคตไว้มากน้อยเเค่ไหนบางคนมีการวางแผนว่าอยากเป็นดีไซนเนอร์ก็เรียนทางด้านดีไซน์ คำตอบที่ไม่ควรตอบเลยก็เช่น ไม่ทราบครับ/ค่ะ ไม่รู้เลยครับ/ค่ะ เอาไว้คิดตอนเรียนใกล้จะจบครับ/ค่ะ จะเป็นการแสดงถึงความไม่ใส่ใจในสิ่งที่ตนเองจะเรียนและอนคตของตัวเองค่ะ ไม่ดีเลยนะ
เด็กดีดอทคอม :: สอบสัมภาษณ์แอดมิชชั่นยังไงให้ "ผ่าน" เรื่องจริงจาก 4 รุ่นพี่ - ก่อนหน้านี้ได้สอบที่ไหนมาบ้างหรือเปล่า?
        การถามคำถามนี้จะเป็นการถามเรื่องราวของน้อง ๆ ว่าได้สอบมาบ้างหรือเปล่า ถามเพื่อดูว่าที่น้อง ๆ สอบผ่านมาคืออะไรบ้าง เป็นสายเรียนในแนวเดียวกันหรือเปล่า อย่างบางคนตอบว่า สอบค่ะ มีสอบทั้ง ทันตแพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ อักษรศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ แบบนี้อาจารย์จะรู้ได้เลยว่าเราเป็นคนที่ไม่มีความแน่นอน ไล่สอบหมดทุกอย่าง แต่ถ้าเราตอบไปในสายที่เราสอบเกี่ยวกับคณะที่เราสอบติดหล่ะก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้อาจารย์ว่าเราชอบทางด้านสายนี้ เรียนได้แน่
- ถ้าเรียนไปแล้วมันไม่ใช่ตัวคุณ จะทำอย่างไร?
        คำถามนี้วัดใจกันไปเลยว่า ถ้าเรียนแล้วไม่ใช่จะทำไง ส่วนคำตอบแล้วแต่น้องเลยค่ะไม่ว่าจะตอบอย่างไรของอย่างเดียวว่า พยายามแสดงให้อาจารย์ท่านเห็นถึงความมุ่งมั่นของเรา แนวการตอบพี่แป้งแนะนำเป็นตอบแบบเตรียมการ มีแผน 1 แผน 2 แผน 3 แบบนี้ดีกว่านะ เช่น ถ้เรียนแล้วมันไม่ใช่ ผมจะพยายามหาแนวทางที่ใช่ก่อน ถ้าเจอก็สอบใหม่ครับ ถ้าไม่เจอก็พยามเรียนให้จบที่นี่ แต่ ณ ตอนนี้ผมมั่นใจว่าผมชอบคณะนี้เพราะผมได้ศึกษามาแล้วครับ แสดงความมุ่งมั่นให้เห็นนะคะ
- ถ้าตกสัมภาษณ์จะทำอย่างไร?
        นี้ก็เป็นอีกคำถามที่วัดใจ ถึงแม้ว่าเราจะรู้อยู่แล้วว่าการสัมภาษณ์ในรอบแอดมิชชั่นนั้นน้อยคนที่จะตก แล้วที่ตกสัมภาษณ์ก็เป็นเพราะถูกประเมินว่าจิตไม่ปกติ แต่เวลาตอบเราก็ต้องอ่อนน้อมไว้ก่อนจะได้ปลอดภัยค่ะ คำตอบที่ไม่ควรตอบเลยก็คือ ไม่ตกหรอครับ/ค่ะ หรือ ยังไงก็ไม่ตกสัมภาษณ์แน่นอน หรือ ทราบครับ/ค่ะว่าไม่มีการตกรอบสัมภาษณ์แน่ ๆ แบบนี้จะเป็นการไม่ให้เกียรติอาจารย์ที่สัมภาษณ์เลยค่ะ จากที่จะผ่านแบบฉลุยจะกลายเป็นร่วงแบบฉุดไม่ขึ้นมากกว่านะคะ

 >> สิ่งที่ควรทำ
- แต่งกายเรียบร้อย เสื้อผ้าหน้าผมเป๊ะไว้ก่อน
- ความสุภาพอ่อนน้อม เจอใครก็ตามไหว้โลด สุภาพไว้ก่อนปลอดภัย
- ไปถึงก่อนเวลาสัมภาษณ์ เผื่อเวลาทำธุระส่วนตัว
- ตรวจสอบเอกสารก่อนออกจากบ้าน
- มีแฟ้มสะสมผลงาน (มีหรือไม่มีก็ได้ค่ะ)
- พูดจาฉะฉาน มีหางเสียง ฉะฉานนะไม่ใช่ก้าวร้าว
- ยิ้มเข้าไว้ คิดอะไรไม่ออกยิ้มก่อน
- สารภาพตรง ๆ ถ้าตอบไม่ได้ อย่าแถ เพราะถ้าแถแล้วผิดจะพลาดเป็น 2 เท่า
- ศึกษาเส้นทางการเดินทางไปสัมภาษณ์ จะได้ไม่หลง
- ขอพรคุณพ่อคุณแม่ก่อนออกจากบ้าน เพื่อความเป็นสิริมงคล
- ทำความรู้จักกับรุ่นพี่ที่มาดูแล

>> สิ่งที่ไม่ควรทำ
- ไปสาย (ไม่มีใครนั่งรอนะ)
- รับประทานอาหารที่เสี่ยงให้เกิดความไม่ปลอดภัย ท้องเสียขึ้นมา....เอ่อ ไม่อยากจะคิด
- กวนประสาทอาจารย์ที่สัมภาษณ์
- แสดงกริยาอวดเก่ง ฉันมี ฉันเก่ง ฉันต้องได้เรียนซิ!!!!
- มองเพดาน เหม่อลอย แลดูไม่มีจุดยืน
- ร้องไห้หรือแสดงให้เห็นว่าเราอ่อนแอ ขี้แย
- แต่งกายแฟชั่น รองเท้าสูงปรี๊ด กางเกงรัดขา สีผมจัดเต็ม

          เอาหล่ะ!! ทีนี้เราก็พร้อมแล้วกับการสอบสัมภาษณ์ เทคนิคนี้ไม่ใช่ว่าใช้แค่รอบแอดมิชชั่นนะคะ สามารถใช้ได้กับการสัมภาษณ์ทุกที่ที่สอบเข้าได้เลยค่ะ  ในส่วนของรอกแอดมิชชั่นนั้นไม่ได้ซีเรียสกับการมี Portfolio เท่าไหร่นะคะ จะมีหรือไม่มีก็ได้ ขอแค่อย่าไปกวนประสาทอาจารย์จนโดนตีตราว่าเป็นคนจิตไม่ปกติก็พอค่ะ อย่าลืมนำเทคนิคนี้ไปใช้นะคะ ส่วนน้อง ๆ คนไหนที่เคยสอบสัมภาษณ์มาแล้ว ก็มาร่วมเล่าประสบการณ์การสอบสัมภาษณ์ได้นะคะ อยากรู้ >///<
.
เด็กดีดอทคอม :: สอบสัมภาษณ์แอดมิชชั่นยังไงให้ "ผ่าน" เรื่องจริงจาก 4 รุ่นพี่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น