วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2555

อดีต ปัจจุบัน อนาคต

อดีต ปัจจุบัน อนาคต

ไมใช่ชีวิตของลูกไก่หรอกนะคะ แต่เป็นการใช้ Tense หรือที่ภ.ฝรั่งเศสเขาเรียกว่า « Temps » หรือ « กาล » เราจะรู้ได้ทันทีว่า เหตุการณ์ในประโยคหนึ่ง นั้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ เมื่อวาน หรือพรุ่งนี้ โดยดูจาก
« กาล » ของ กริยาในประโยคนั้นๆ นอกเหนือจากคำช่วยตัวอื่นที่ขยายประโยคให้ชัดแจ้งยิ่งขึ้น

1.Présent หรือกาลปัจจุบัน

โดยทั่วไปแล้วบอกให้รู้ว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นขณะที่พูด
ฉันอาบน้ำ / Je prends une douche
ฉันหิว / J’ai faim

นอกจากนี้ le présent ยังใช้กับ ;

-เหตุการณ์หรือสิ่งที่เป็นจริงโดยทั่วไป เช่น พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก / Le soleil se lève à l’est.

- ใช้ในการเล่าเรื่อง เหตุการณ์ในอดีต (บอกให้รู้ไว้เฉยๆ แต่ในชีวิตประจำวันจริงๆไม่ค่อยได้ใช้หรอกค่ะ

- ใช้กับการกระทำที่เป็นกิจวัตร เช่น เขาทานอาหารเย็นตอนสองทุ่ม / Il dîne à 8 heures.

- ใช้กับเหตุการณ์ในอนาคตที่แน่ใจว่าต้องเกิดขึ้นแน่ๆ เช่น
Je reviens dans cinq minutes. / อีกห้านาทีฉันจะกลับมา

2. Passé / อดีต 

2.1 Imparfait 

-ใช้เล่าหรือบรรยายเหตุการณ์ในอดีตโดยไม่เจาะจงเวลา เช่น เล่าเหตุการณ์สมัยเด็กๆ

Quand j’étais petite, J’habitais avec mes parents dans une petite maison au pied de la montagne, …….
สมัยที่ฉันยังเด็ก ฉันอาศัยอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ในบ้านหลังเล็กๆไกล้ตีนเขา………

-ใช้เมื่อมีสองเหตุการณ์เกิดขึ้น ในอดีต เหตุการณ์หนึ่งกำลังดำเนินอยู่แล้วมีอีกเหตุการณ์หนึ่งเข้ามาแทรก
เช่น เมื่อวานนี้ขณะที่ฉันกำลังปั่นจักรยานอยู่ ทันใดนั้นลูกหมาตัวหนึ่งก็วิ่งตัดหน้า

Hier je roulais sur mon vélo, tout un coup un petit chien m’a coupé la route.

จะสังเกตุเห็นว่าเหตุการณ์แรกที่ใช้ Imparfait เกิดขึ้นยาวนานกว่าเหตุการณ์ที่สอง ซึ่งเกิดขึ้นแล้วก็จบทันที

2.2 Passé composé ใช้กับเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงทันทีทันใดในเวลาที่เจาะจง

Hier soir, j’ai téléphoné à une amie. / ฉันโทรศัพท์ไปหาเพื่อนเมื่อวานนี้

Avant-hier, je suis allée au bois en vélo.
เมื่อวานซืนฉันขี่จักรยานไปเที่ยวสวน.

2.3 Plus-que-parfait บอกเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นก่อนอีกเหตุการณ์หนึ่งในอดีตเช่นกัน และใช้กับ ประโยคเงื่อนใข ใช้น้อยค่ะ tense นี้

Si j’avais su, je ne serais pas parti./ ถ้าฉันรู้ ฉันคงไม่ไปหรอก

3.Futur / อนาคต

3.1 Futur simple บอกเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

J’irai te chercher à l’aéroport. / ฉันจะไปรับเธอเองที่สนามบิน
Je partirai en vacances le 15 juillet. / ฉันจะไปพักร้อนวันที่ 15 กรกฎาคม

3.2 Futur proche /ใช้กับ เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันไกล้

Je vais me laver. / ฉันไปอาบน้ำแล้วล่ะ
Tu vas partir ?เธอจะไปแล้วหรือ

3.3Futur antérieur / ใช้บอกเหตุการณืในอนาคตที่เกิดขึ้นก่อนอีกเหตุการณ์หนึ่งในอนาคตเช่นกัน
Dès que tu auras fini ta valise , nous partirons / เราก็จะไปกันในทันทีที่เธอจัดกระเป๋าเสร็จ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น